
นักวิจัยชี้ มีสายพันธุ์ใกล้เคียง Nipah–Hendra ที่เคยก่อโรคอันตรายในมนุษย์
งานวิจัยล่าสุดจากประเทศจีนได้ค้นพบไวรัสชนิดใหม่กว่า 20 สายพันธุ์ในค้างคาวที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ รายงานชี้ว่าไวรัสหลายตัวในกลุ่มนี้มีความใกล้เคียงกับไวรัสตระกูล Henipavirus ได้แก่ ไวรัส Nipah และ Hendra ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเคยก่อการระบาดรุนแรงในมนุษย์และสัตว์มาก่อนหน้านี้
การค้นพบ “ไวรัสใหม่กว่า 20 สายพันธุ์” ในค้างคาวจีน มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Pathogens เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2025 โดยทีมนักวิจัยนำโดย กัวเผิง ควง (Guopeng Kuang) จาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคมณฑลยูนนาน (Yunnan CDC) ร่วมกับ เถียน หยาง (Tian Yang) จาก มหาวิทยาลัยต้าหลี่ ประเทศจีน
สรุปข่าว
นักวิจัยชี้ มีสายพันธุ์ใกล้เคียง Nipah–Hendra ที่เคยก่อโรคอันตรายในมนุษย์
งานวิจัยล่าสุดจากประเทศจีนได้ค้นพบไวรัสชนิดใหม่กว่า 20 สายพันธุ์ในค้างคาวที่อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ รายงานชี้ว่าไวรัสหลายตัวในกลุ่มนี้มีความใกล้เคียงกับไวรัสตระกูล Henipavirus ได้แก่ ไวรัส Nipah และ Hendra ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเคยก่อการระบาดรุนแรงในมนุษย์และสัตว์มาก่อนหน้านี้
การค้นพบ “ไวรัสใหม่กว่า 20 สายพันธุ์” ในค้างคาวจีน มาจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Pathogens เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2025 โดยทีมนักวิจัยนำโดย กัวเผิง ควง (Guopeng Kuang) จาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคมณฑลยูนนาน (Yunnan CDC) ร่วมกับ เถียน หยาง (Tian Yang) จาก มหาวิทยาลัยต้าหลี่ ประเทศจีน
คณะนักวิจัยเก็บตัวอย่างจากค้างคาวหลากหลายสายพันธุ์กว่า 142 ตัว โดยวิธีการเก็บข้อมูลในครั้งนี้เน้นการวิเคราะห์สารพันธุกรรมจากเนื้อเยื่อภายใน ได้แก่ ไตและอวัยวะภายใน แทนที่จะตรวจจากอุจจาระหรือสารคัดหลั่งแบบเดิม ทำให้สามารถแยกและระบุไวรัสได้อย่างละเอียดลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ผลการวิเคราะห์พบว่าไวรัสหลายสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า "zoonotic viruses" หรือไวรัสที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมใกล้เคียงกับ Nipah และ Hendra
อะไรคือไวรัส Nipah และ Hendra?
ไวรัสทั้งสองสายพันธุ์เป็นสมาชิกของตระกูล Henipavirus ซึ่งถูกจัดให้เป็น "ไวรัสอุบัติใหม่ที่มีความรุนแรงสูง" โดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
Nipah virus (NiV) ถูกค้นพบครั้งแรกในมาเลเซียในปี 1998 และเคยเกิดการระบาดในบังกลาเทศและอินเดีย โดยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 40–75%
Hendra virus (HeV) ถูกค้นพบในออสเตรเลีย มีความสามารถในการติดจากค้างคาวสู่ม้า และจากม้าสู่คน อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 60%
ทั้งสองไวรัสนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาที่ได้ผลชัดเจนในมนุษย์ และไวรัส Nipah เองก็มีคุณสมบัติในการ แพร่เชื้อจากคนสู่คนผ่านสารคัดหลั่ง ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
ทำไมค้างคาวจึงเป็นพาหะสำคัญ?
ค้างคาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีภูมิคุ้มกันเฉพาะตัว สามารถอาศัยอยู่ร่วมกับไวรัสหลายชนิดได้โดยไม่แสดงอาการป่วย และเนื่องจากวิถีชีวิตของค้างคาวมักเกี่ยวข้องกับผลไม้ น้ำ และแหล่งอาหารของมนุษย์ การที่พวกมัน ถ่ายปัสสาวะหรือทิ้งเศษอาหารในแหล่งเดียวกับคน อาจทำให้ไวรัสปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและแพร่สู่มนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงได้
สัญญาณเตือนด้านสาธารณสุข
การค้นพบไวรัสเหล่านี้ไม่ใช่สัญญาณของการระบาดทันที แต่เป็น สัญญาณเตือนด้านสุขภาพสาธารณะ ว่าความเชื่อมโยงระหว่างคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมไม่สามารถละเลยได้อีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญเสนอให้ใช้แนวทาง “One Health” ซึ่งเป็นการรวมศาสตร์ด้านการแพทย์ สัตวแพทย์ และสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อป้องกันโรคอุบัติใหม่ตั้งแต่ต้นทาง
ในโลกที่มีการตัดไม้ทำลายป่า ขยายเมือง และค้าสัตว์ป่าอย่างต่อเนื่อง การพบไวรัสใหม่จากสัตว์ป่าจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะมีระบบเฝ้าระวังที่แม่นยำ รวดเร็ว และสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีหรือไม่
- “กุ้ยโจว” เผชิญน้ำท่วมหนัก อพยพประชาชนกว่า 80,000 คน
- กุ้ยโจวเผชิญน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 50 ทำประชาชนเดือดร้อน
- จีนลดนำเข้าทุเรียน กระทบเวียดนามหนักสุด
- "สหรัฐฯ-จีน" ลงนามแล้ว ข้อตกลงการค้า-แร่หายาก จ่อปิดดีลอีก10 ประเทศ
- วัฒนธรรมแดนมังกรในหัวใจไทย จาก "แต๊ะเอีย" สู่ "งิ้วแต้จิ๋ว"
- โลกร้อนเขย่า “ค้างคาว” อ้วนแค่ไหนก็ไม่รอด
- จีนฉวยจังหวะดัน “หยวน” แทน “ดอลลาร์”
ที่มารูปภาพ : Canva
