นักวิจัยทดลองยาหยอดยารักษาโรคต้อกระจก

นักวิจัยทดลองยาหยอดยารักษาโรคต้อกระจก

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยต้อกระจกราว 65 ล้าน ที่เสี่ยงตาบอดหรือการมองผิดผิดปกติ จากภาวะดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบันกการรักษาต้อกระจกที่ได้ผล มีเพียงการผ่าตัดเท่านั้น นอกจากยุ่งยากแล้ว ยังทำให้ผู้ป่วยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ยังรู้สึกไม่สบายใจด้วย ข่าวดีคือในอนาคต การรักษาต้อกระจกจะเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ใช้ยาหยอดตาเท่านั้น

นักวิจัยพบสารเคมีที่รักษาต้อกระจก

ในเลนส์ตาประกอบด้วยเซลล์เยื่อบุผิวและเซลล์เส้นใย ซึ่งมีโปรตีนหลักคือแอลฟา-คริสทัลลิน คงความสดใสแลยืดหยุ่นของเลนส์ตาเอาไว้ 

แต่ปัญหาคือ เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น สมดุลของโปรตีนนี้ในเลนส์ตาลดลง ทำให้เลนส์ภายในลูกตามีความขุ่น อาจมีสีขาวขุ่น สีเหลือง หรือสีน้ำตาล จึงทำให้แสงผ่านเข้าไปยังประสาทตาได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการตามัว มองเห็นภาพเบลอ สีเพี้ยน ซึ่งเป็นอาการของ "โรคต้อกระจก"

เมื่อเป็นโรคต้อกระจก จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนเหมือนเช่นเคย กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน คือการผ่าตัด เพื่อนำเลนส์ที่ขุ่นมัวออกไปและใส่เลนส์เทียมใหม่เข้าไปแทนที่ ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ทำให้คนป่วยที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุรู้สึกกลัวและไม่สบายใจ

แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยได้ค้นคว้า สารประกอบชื่อว่า VP1-001 ซึ่งทำงานได้อย่างน่าสนใจมาก โดยเข้าไปโจมตีกลุ่มโปรตีนในเลนส์ตา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เลนส์ขุ่นในโรคต้อกระจก แทนที่จะเอาเลนส์ออก ยาหยดตานี้พยายามจัดระเบียบโปรตีนใหม่ ทำให้แสงสามารถผ่านเข้าไปได้ชัดเจนขึ้น

ผลการวิจัยกับหนูทดลองที่ถูกทำให้ตาขุ่นมัว หลังใช้สาร VP1-001  หยอดตา

  • เลนส์ที่ได้รับการรักษา 61 เปอร์เซนต์คืนความสามารถในการโฟกัสได้ดีขึ้น
  • 46 เปอร์เซนต์ ดูใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใต้กล้องจุลทรรศน์

ขั้นต่อไป

แม้ยาหยอดตานี้จะเพิ่งอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี หมายความว่าในอนาคต เราอาจไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดที่ทั้งยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายสูง และมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นน้อยกว่าการผ่าตัด

สรุปข่าว

ข่าวดีคือในอนาคต การรักษาต้อกระจกจะเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ใช้ยาหยอดตาเท่านั้น

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยต้อกระจกราว 65 ล้าน ที่เสี่ยงตาบอดหรือการมองผิดผิดปกติ จากภาวะดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบันกการรักษาต้อกระจกที่ได้ผล มีเพียงการผ่าตัดเท่านั้น นอกจากยุ่งยากแล้ว ยังทำให้ผู้ป่วยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ยังรู้สึกไม่สบายใจด้วย ข่าวดีคือในอนาคต การรักษาต้อกระจกจะเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ใช้ยาหยอดตาเท่านั้น

นักวิจัยพบสารเคมีที่รักษาต้อกระจก

ในเลนส์ตาประกอบด้วยเซลล์เยื่อบุผิวและเซลล์เส้นใย ซึ่งมีโปรตีนหลักคือแอลฟา-คริสทัลลิน คงความสดใสแลยืดหยุ่นของเลนส์ตาเอาไว้ 

แต่ปัญหาคือ เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น สมดุลของโปรตีนนี้ในเลนส์ตาลดลง ทำให้เลนส์ภายในลูกตามีความขุ่น อาจมีสีขาวขุ่น สีเหลือง หรือสีน้ำตาล จึงทำให้แสงผ่านเข้าไปยังประสาทตาได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการตามัว มองเห็นภาพเบลอ สีเพี้ยน ซึ่งเป็นอาการของ "โรคต้อกระจก"

เมื่อเป็นโรคต้อกระจก จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนเหมือนเช่นเคย กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน คือการผ่าตัด เพื่อนำเลนส์ที่ขุ่นมัวออกไปและใส่เลนส์เทียมใหม่เข้าไปแทนที่ ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ทำให้คนป่วยที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุรู้สึกกลัวและไม่สบายใจ

แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยได้ค้นคว้า สารประกอบชื่อว่า VP1-001 ซึ่งทำงานได้อย่างน่าสนใจมาก โดยเข้าไปโจมตีกลุ่มโปรตีนในเลนส์ตา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เลนส์ขุ่นในโรคต้อกระจก แทนที่จะเอาเลนส์ออก ยาหยดตานี้พยายามจัดระเบียบโปรตีนใหม่ ทำให้แสงสามารถผ่านเข้าไปได้ชัดเจนขึ้น

ผลการวิจัยกับหนูทดลองที่ถูกทำให้ตาขุ่นมัว หลังใช้สาร VP1-001  หยอดตา

  • เลนส์ที่ได้รับการรักษา 61 เปอร์เซนต์คืนความสามารถในการโฟกัสได้ดีขึ้น
  • 46 เปอร์เซนต์ ดูใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใต้กล้องจุลทรรศน์

ขั้นต่อไป

แม้ยาหยอดตานี้จะเพิ่งอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี หมายความว่าในอนาคต เราอาจไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดที่ทั้งยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายสูง และมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นน้อยกว่าการผ่าตัด

ที่มาข้อมูล : millennialeye.com

ที่มารูปภาพ : CANVA