
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคโมยาโมย่า (Moyamoya disease) เป็นโรคหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ที่เลี้ยงสมอง เกิดอาการอุดตันหรือตีบ ร่างกายก็จะมีการปรับตัว ให้มีหลอดเลือดเล็ก ๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อไปเลี้ยงเนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือด จึงทำให้เหมือนเส้นเลือดฝอยกระจายอยู่เต็มภายในเนื้อสมอง อย่างไรก็ตาม ยังมีเนื้อสมองบางตำแหน่ง ที่อยู่ในภาวะขาดเลือด หรือมีเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมองไม่เพียงพอ ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยส่วนหนึ่ง มีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้จาก ภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยง
สรุปข่าว
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคโมยาโมย่า (Moyamoya disease) เป็นโรคหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ที่เลี้ยงสมอง เกิดอาการอุดตันหรือตีบ ร่างกายก็จะมีการปรับตัว ให้มีหลอดเลือดเล็ก ๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อไปเลี้ยงเนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือด จึงทำให้เหมือนเส้นเลือดฝอยกระจายอยู่เต็มภายในเนื้อสมอง อย่างไรก็ตาม ยังมีเนื้อสมองบางตำแหน่ง ที่อยู่ในภาวะขาดเลือด หรือมีเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมองไม่เพียงพอ ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยส่วนหนึ่ง มีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้จาก ภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยง
การรักษาโรคโมยาโมย่า ด้วยการผ่าตัดแต่เดิมทำโดยการผ่าตัดนำหลอดเลือดภายนอกกะโหลกศีรษะเข้าไปวางบนผิวสมอง กระตุ้นให้เนื้อสมอง สร้างหลอดเลือดฝอยเพิ่มขึ้น ซึ่งผลการรักษาดี แต่ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีนี้ ประสาทศัลยแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา ได้ริเริ่มการผ่าตัดบายพาสนำหลอดเลือดภายนอกกะโหลกศีรษะ ตัดต่อเข้ากับเส้นเลือดภายในสมองโดยตรง เพิ่มเติมร่วมกับวิธีดั้งเดิม ทำให้ผลลัพธ์การรักษาดียิ่งขึ้น ลดอัตราเกิดอัมพาตและโรคหลอดเลือดสมองซ้ำ แต่การผ่าตัดดังกล่าว มีความจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัย พิเศษ ตรวจวัดการไหลเวียนเลือดสมองอย่างแม่นยำ โดยประสาทรังสีแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา ได้พัฒนาเทคโนโลยี BOLD MRI (Blood Oxygen Level Dependent MRI) ร่วมกับ Carbon Dioxide Stimuli ซึ่งเป็นการตรวจวินิจฉัย
ประเมินการทำงานหลอดเลือด สมอง โดยการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ กระตุ้นให้เกิดภาวะหลอดเลือดสมองขยายตัว แล้วตรวจด้วย MRI สมองว่ามีบริเวณใดมีหลอดเลือดมาเลี้ยงเพียงพอหรือขาดเลือดมาเลี้ยงเนื้อสมอง เป็นการยกระดับการตรวจวินิจฉัย และติดตามผลการรักษาหลังการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดสมองได้อย่างแม่นยำ
ว่าที่ร้อยตำรวจโทหญิง แพทย์หญิง นภา ศิริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่าจากข้อมูลสถาบันประสาทวิทยา มีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจวินิจฉัย ด้วยเทคนิค BOLD MRI แล้ว ทั้งหมด 578 ราย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการบายพาสด้วยโรคโมยาโมย่า ทั้งหมด 100 ราย นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน ผลการรักษาวิธีดังกล่าว มีอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดอยู่ในระดับสูง โดยผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 90 ไม่มีอาการโรคหลอดเลือดสมองซ้ำ และกว่าร้อยละ 90 มีพัฒนาการทางระบบประสาทและคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน
ข้อมูลจากผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจด้วยเทคนิคนี้แสดงให้เห็นว่า บริเวณที่ได้รับการทำบายพาส มีหลอดเลือดสมองดีขึ้นเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการทางระบบประสาทก่อนผ่าตัด ส่งผลให้การวางแผนการรักษาและการติดตามผล มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ย้ำว่าโรคโมยาโมย่าเป็นโรคที่ต้องอาศัยการวินิจฉัยและการรักษาเฉพาะทางที่มีความซับซ้อน โดยการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดสมอง ร่วมกับเทคนิคประเมินสมรรถภาพหลอดเลือดสมองด้วย BOLD MRI จึงถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วยในประเทศไทย
- แพทย์เตือน! เข้าห้อง MRI ห้ามใส่สร้อย วัตถุโลหะ เสี่ยงโดนเครื่องดูด อันตรายถึงชีวิต
- ชายอเมริกันถูกดูดกระแทกเครื่อง MRI เสียชีวิต หลังสวมโซ่ยกน้ำหนักที่คอ
- สาวแชร์อุทาหรณ์ ใส่ส้นสูง โค้งคอ 17 ครั้ง สุดท้ายเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Stroke)
- "หมอหมี"แชร์เคสคนไข้สิทธิประกันสังคม ป่วยแขนขาอ่อนแรง แต่ต้องรอ MRI นานถึง 2 ปี
- สัญญาณเตือน อัมพาตเฉียบพลัน (Stroke) พร้อมวิธีรับมืออย่างทันท่วงที
- โรคหลอดเลือดสมอง! คร่าชีวิตคนไทยสูงรองจากมะเร็ง เช็กอาการ-วิธีป้องกัน
ที่มาข้อมูล : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์
ที่มารูปภาพ : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์
