ริดสีดวงจมูก รู้จักสาเหตุ อาการ การรักษา และสัญญาณเตือน

Share on Line Share on Facebook Share on X
ริดสีดวงจมูก รู้จักสาเหตุ อาการ การรักษา และสัญญาณเตือน

ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyp) คือติ่งเนื้อหรือก้อนภายในจมูกที่ไม่เป็นมะเร็ง แม้ว่าติ่งเนื้อในจมูกนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด แต่หากมีขนาดใหญ่หรือมีหลายก้อนอาจขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบากหรือคัดจมูกได้ ริดสีดวงจมูกเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุโพรงจมูกหรือไซนัส ซึ่งส่งผลให้เยื่อบุบวมและยื่นออกมาเป็นก้อนเนื้อนุ่ม ๆ ลักษณะคล้ายผลองุ่น ภาวะนี้แม้ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่สามารถส่งผลกระทบต่อการหายใจ การนอนหลับ และคุณภาพชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

สาเหตุของริดสีดวงจมูก

ริดสีดวงจมูกเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่


  • เช่น แพ้ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์
  • การติดเชื้อไซนัสเรื้อรัง
  • โรคหืด (Asthma) หรือภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • ความผิดปกติของโครงสร้างโพรงจมูก เช่น ผนังกั้นจมูกคด
  • การใช้ยาแอสไพรินในผู้ที่มีภาวะแพ้ยา
  • พันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้มาก่อน

อาการของริดสีดวงจมูก

อาการมักค่อย ๆ ปรากฏและรุนแรงขึ้นตามขนาดของก้อน โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • คัดจมูกเรื้อรัง หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • น้ำมูกไหลหรือมีน้ำมูกข้นเหนียว
  • การรับกลิ่นและรสลดลง หรือไม่ได้กลิ่นเลย
  • ปวดหรือแน่นบริเวณใบหน้า หน้าผาก หรือรอบดวงตา
  • เสียงพูดขึ้นจมูก หรือมีการเปลี่ยนแปลงของเสียง
  • บางรายอาจมีอาการกรนหรือหยุดหายใจขณะหลับ

สรุปข่าว

ริดสีดวงจมูกเป็นโรคที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต หากมีอาการคัดจมูกเรื้อรังหรือรับกลิ่นลดลง ควรรีบพบแพทย์หู คอ จมูก เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะการรักษาตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำในอนาคต

ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyp) คือติ่งเนื้อหรือก้อนภายในจมูกที่ไม่เป็นมะเร็ง แม้ว่าติ่งเนื้อในจมูกนี้จะไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด แต่หากมีขนาดใหญ่หรือมีหลายก้อนอาจขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบากหรือคัดจมูกได้ ริดสีดวงจมูกเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุโพรงจมูกหรือไซนัส ซึ่งส่งผลให้เยื่อบุบวมและยื่นออกมาเป็นก้อนเนื้อนุ่ม ๆ ลักษณะคล้ายผลองุ่น ภาวะนี้แม้ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่สามารถส่งผลกระทบต่อการหายใจ การนอนหลับ และคุณภาพชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

สาเหตุของริดสีดวงจมูก

ริดสีดวงจมูกเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่


  • เช่น แพ้ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์
  • การติดเชื้อไซนัสเรื้อรัง
  • โรคหืด (Asthma) หรือภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • ความผิดปกติของโครงสร้างโพรงจมูก เช่น ผนังกั้นจมูกคด
  • การใช้ยาแอสไพรินในผู้ที่มีภาวะแพ้ยา
  • พันธุกรรม โดยเฉพาะผู้ที่มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้มาก่อน

อาการของริดสีดวงจมูก

อาการมักค่อย ๆ ปรากฏและรุนแรงขึ้นตามขนาดของก้อน โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • คัดจมูกเรื้อรัง หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • น้ำมูกไหลหรือมีน้ำมูกข้นเหนียว
  • การรับกลิ่นและรสลดลง หรือไม่ได้กลิ่นเลย
  • ปวดหรือแน่นบริเวณใบหน้า หน้าผาก หรือรอบดวงตา
  • เสียงพูดขึ้นจมูก หรือมีการเปลี่ยนแปลงของเสียง
  • บางรายอาจมีอาการกรนหรือหยุดหายใจขณะหลับ

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นริดสีดวงจมูก หลายคนอาจสงสัยว่าอาการคัดจมูกเรื้อรังนั้นเกิดจากภูมิแพ้หรือริดสีดวงจมูก ซึ่งมีอาการคล้ายกัน การแยกโรคและการตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้ดังนี้

สังเกตอาการด้วยตนเอง

หากมีอาการคัดจมูกเรื้อรังนานกว่า 3 สัปดาห์ และไม่ดีขึ้นจากการใช้ยาพ่นหรือยาลดน้ำมูกทั่วไป ควรสงสัยภาวะริดสีดวงจมูก โดยเฉพาะถ้ามีอาการรับกลิ่นลดลงหรือไม่ได้กลิ่นเลย

การตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก (ENT)

  • แพทย์จะใช้กล้องส่องโพรงจมูก (Nasal Endoscopy) ตรวจดูภายในโพรงจมูกโดยตรง หากพบก้อนเนื้อนุ่มสีเทาออกชมพู อาจวินิจฉัยได้ว่าเป็นริดสีดวงจมูก
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
  • เป็นการตรวจเพื่อดูตำแหน่ง ขนาด และจำนวนของริดสีดวง รวมถึงประเมินภาวะไซนัสอักเสบเรื้อรังที่อาจเกิดร่วมกัน
  • การตรวจภูมิแพ้และการตรวจชิ้นเนื้อ (ถ้าจำเป็น)
  • ใช้เพื่อหาสาเหตุของการอักเสบเรื้อรัง หรือแยกความแตกต่างจากเนื้องอกชนิดอื่น ๆ ในโพรงจมูก
  • หากพบริดสีดวงตั้งแต่ขนาดเล็ก แพทย์มักเริ่มรักษาด้วยยาเพื่อลดอาการอักเสบก่อน โดยยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัดในทันที

สัญญาณเตือนที่ควรพบแพทย์


  • คัดจมูกเรื้อรังไม่หายเกินสามสัปดาห์
  • ปวดหรือแน่นใบหน้าเป็นประจำ
  • การรับกลิ่นหรือรสลดลงอย่างชัดเจน
  • มีเลือดออกจากจมูกบ่อย
  • ใช้ยาพ่นหรือยาลดบวมแล้วไม่ดีขึ้น
  • การรักษาริดสีดวงจมูก

แนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนริดสีดวงและความรุนแรงของอาการ

การรักษาด้วยยา

ใช้ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบและขนาดของก้อนร่วมกับยาแก้แพ้หรือยาลดบวมจมูก ในกรณีที่มีการติดเชื้ออาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย

การรักษาด้วยการผ่าตัด

หากก้อนริดสีดวงมีขนาดใหญ่หรือไม่ตอบสนองต่อยา แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic Sinus Surgery) เพื่อเอาก้อนออกและเปิดทางระบายของไซนัส

การดูแลหลังการรักษา

ล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงฝุ่น ควันบุหรี่ และสารก่อภูมิแพ้ ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ