ไซยาไนด์ สารพิษสังหารอันตราย สังเกตอาการอย่างไร

Share on Line Share on Facebook Share on X
ไซยาไนด์ สารพิษสังหารอันตราย สังเกตอาการอย่างไร

ไซยาไนด์ เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจมองว่าสารไซยาไนด์ เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่จริงๆ แล้วในชีวิตประจำวันของเรา ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับสารพิษนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งหากไม่ระวัง ก็มีโอกาสรับพิษเข้าสู่ร่างกายได้โดยที่เราไม่รู้ตัว 

ไซยาไนด์ คืออะไร?

ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งมีความเป็นพิษสูง มีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น ยาฆ่าแมลง น้ำยาขัดเงาโลหะ น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชรพลอย ใช้ในอุตสาหกรรมการถลุงโลหะ ฯลฯ

สามารถพบไซยาไนด์ได้ในหลายรูปแบบ ได้แก่ ภาวะก๊าซ hydrogen cyanide เกิดจากการเผาไหม้สารพลาสติก polyurethane และหนังเทียม รูปแบบของแข็งหรือสารละลาย ได้แก่ potassium cyanide และ potassium cyanide solution 

นอกจากนี้ยังสามารถพบไซยาไนด์ได้ในธรรมชาติเช่น ในมันสำปะหลังดิบ โดยเมื่อรับประทานแล้วร่างกายจะทำการย่อยสารบางชนิดในมันสำปะหลังดิบให้เป็นไซยาไนด์เข้าสู่เซลล์ในร่างกาย ในกรณีนี้อาการแสดงของพิษจากไซยาไนด์สามารถเกิดขึ้นในเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงหลังจากรับประทาน

ไซยาไนด์ มีอยู่รอบตัว

พิษไซยาไนด์ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดนผิวหนัง การสูดดม และการรับประทาน 

ในชีวิตประจำวันของเรามีสิทธิ์ที่จะได้รับพิษจากสารไซยาไนด์ได้จากการปนเปื้อนในอาหาร เนื่องจากสารไซยาไนด์ สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ เช่นในเมล็ดแอปเปิ้ล แอปริคอต พีช ลูกแพร และถั่วอัลมอนด์รสขม 

นอกจากนี้ ไซยาไนด์ยังสามารถพบได้ในหัวและใบของมันสำปะหลังและหน่อไม้ ดังนั้น ไม่ควรรับประทานอาหารเหล่านี้สด ๆ ควรกำจัดไซยาไนด์ด้วยความร้อนก่อนนำมารับประทาน ด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น การต้มและการปรุงสุก


สรุปข่าว

ไซยาไนด์ สารพิษสังหารอันตราย สังเกตอาการอย่างไร

ไซยาไนด์ เป็นสารเคมีที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจมองว่าสารไซยาไนด์ เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่จริงๆ แล้วในชีวิตประจำวันของเรา ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับสารพิษนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งหากไม่ระวัง ก็มีโอกาสรับพิษเข้าสู่ร่างกายได้โดยที่เราไม่รู้ตัว 

ไซยาไนด์ คืออะไร?

ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งมีความเป็นพิษสูง มีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น ยาฆ่าแมลง น้ำยาขัดเงาโลหะ น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชรพลอย ใช้ในอุตสาหกรรมการถลุงโลหะ ฯลฯ

สามารถพบไซยาไนด์ได้ในหลายรูปแบบ ได้แก่ ภาวะก๊าซ hydrogen cyanide เกิดจากการเผาไหม้สารพลาสติก polyurethane และหนังเทียม รูปแบบของแข็งหรือสารละลาย ได้แก่ potassium cyanide และ potassium cyanide solution 

นอกจากนี้ยังสามารถพบไซยาไนด์ได้ในธรรมชาติเช่น ในมันสำปะหลังดิบ โดยเมื่อรับประทานแล้วร่างกายจะทำการย่อยสารบางชนิดในมันสำปะหลังดิบให้เป็นไซยาไนด์เข้าสู่เซลล์ในร่างกาย ในกรณีนี้อาการแสดงของพิษจากไซยาไนด์สามารถเกิดขึ้นในเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงหลังจากรับประทาน

ไซยาไนด์ มีอยู่รอบตัว

พิษไซยาไนด์ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโดนผิวหนัง การสูดดม และการรับประทาน 

ในชีวิตประจำวันของเรามีสิทธิ์ที่จะได้รับพิษจากสารไซยาไนด์ได้จากการปนเปื้อนในอาหาร เนื่องจากสารไซยาไนด์ สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ เช่นในเมล็ดแอปเปิ้ล แอปริคอต พีช ลูกแพร และถั่วอัลมอนด์รสขม 

นอกจากนี้ ไซยาไนด์ยังสามารถพบได้ในหัวและใบของมันสำปะหลังและหน่อไม้ ดังนั้น ไม่ควรรับประทานอาหารเหล่านี้สด ๆ ควรกำจัดไซยาไนด์ด้วยความร้อนก่อนนำมารับประทาน ด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น การต้มและการปรุงสุก


ไซยาไนด์ จากมลพิษ ในอากาศ

มนุษย์และสัตว์ยังมีโอกาสได้รับไซยาไนด์จากหลายแหล่ง เช่น ควันบุหรี่ ไอเสียจากรถยนต์ ควันไฟจากการเผาไหม้ขนสัตว์ ผ้าไหม ไนลอน หรือแหล่งน้ำที่มีไซยาไนด์ปนเปื้อนจากโรงงานอุตสาหกรรมและการเกษตร

สังเกตอาการของคนที่ได้รับสารไซยาไนด์ 

อาการของผู้ได้รับสารไซยาไนด์ขึ้นอยู่กับวิธีการที่ได้รับสารพิษและปริมาณ ซึ่งแต่ละคนจะแสดงอาการออกมาไม่เหมือนกัน อาการของคนที่ได้รับสารพิษปริมาณน้อยอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มทำให้เกดิการรับรสผิดปกติ อาเจียน เจ็บหน้าอก ปวดท้อง และกระวนกระวาย 

ส่วนการรับประทานพืชที่มีไซยาไนด์ในปริมาณมาก อาจทำให้ชา สูญเสียการทรงตัว ระบบประสาททำการผิดปกติ เป็นต้น

วิธีปฐมพยาบาล เมื่อถูกพิษไซยาไนด์

  • เมื่อได้รับสารพิษผ่านการกิน

ถ้ามีอาการผิดปกติแนะนำให้ไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด  หากมีอาการรุนแรง เช่น ซึม หมดสติ หรือแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ให้โทรเบอร์ 1669 

ไม่แนะนำให้ล้วงคอ หรือทำให้อาเจียนด้วยวิธีการอื่น เช่น การกินไข่ขาว ให้น้ำ หรือนมในปริมาณมาก ๆ เพื่อหวังเจือจาง เพราะสารพิษบางชนิด หากยิ่งทำวิธีการเหล่านี้ จะยิ่งทำให้เกิดพิษต่อผู้ป่วยมากขึ้น

  • เมื่อได้รับสารพิษสัมผัสเข้าสู่ตาหรือทางผิวหนัง

ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีและเปลี่ยนเป็นชุดอื่นทันที ล้างผิวหนังที่มีการสัมผัสกับสารเคมีด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หากสารเคมีเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที ล้างซ้ำๆ นาน 15 นาทีวิธีการปฐมพยาบาลในกรณีนี้ ให้เปิดน้ำหรือล้างตาด้วยน้ำที่ไหลผ่านตลอด

  • เมื่อได้รับสารพิษผ่านการสูดดม

รีบย้ายออกมาในพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ หากอาการไม่รุนแรงควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดการสูดดมสารเคมี