เตือน “โรคพิษสุนัขบ้า” อันตรายไม่แพ้โควิด! ฉีดวัคซีนคู่กันได้ไม่ต้องกังวล

เตือน “โรคพิษสุนัขบ้า” อันตรายไม่แพ้โควิด! ฉีดวัคซีนคู่กันได้ไม่ต้องกังวล

สรุปข่าว

โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่ออันตรายถึงชีวิต นับว่าอันตรายไม่แพ้โควิด-19 หากทิ้งไว้จนเกิดอาการอาจเสียชีวิตได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่แรกรับเชื้อก็จะมีทางรอด ในนี้นอกจากระมัดระวังและป้องกันตัวจากโควิดแล้ว ต้องไม่ลืมป้องกันตัวเองจากโรคพิษสุนัขบ้าด้วย 


ผศ.น.สพ. ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ในช่วงการระบาดโควิด-19 ระบุว่า กรณีถูกสุนัขกัดในช่วงที่มีการนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องที่สามารถทำคู่ขนานกันไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องเว้นระยะเวลา เพียงแต่ให้ฉีดคนละจุดกันเท่านั้น เนื่องจากเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตทั้งคู่


ทั้งนี้ เมื่อถูกสุนัขหรือแมวกัดหรือข่วน ไม่ว่าสุนัขที่กัดนั้นจะเป็นสุนัขที่เรา “เลี้ยงเอง” หรือ “ของคนอื่น” หรือ “สุนัขจรจัด” ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ เพื่อขจัดน้ำลายที่อาจมีเชื้อปะปนจากนั้น ใส่ยาฆ่าเชื้อ ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนหรือเบตาดีนก็ได้ เมื่อใส่ยาแล้วให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและป้องกันบาดทะยัก และแม้ว่าจะถูกกัดโดยสัตว์เลี้ยงที่ฉีดพิษสุนัขบ้า แล้วก็อย่าเพิ่งวางใจ ให้ขังหรือกักบริเวณสัตว์ไว้เพื่อเฝ้าดูอาการ ประมาณ 2 สัปดาห์ หากสัตว์มีอาการผิดปกติหรือเสียชีวิต ให้รีบแจ้งแพทย์ผู้รักษา


ในกรณีที่ถูกสัตว์กัดเป็นแผลใหญ่และลึก หรือเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงอยู่จำนวนมาก เช่น บริเวณใบหน้า หรือใกล้สมอง แพทย์อาจจะพิจารณาฉีด “อิมมูโนโกลบูลิน” เพื่อทำลายเชื้อไวรัสบริเวณบาดแผลให้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 


สำหรับสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ในปี 2561 มีสูงถึง 18 ราย มีจำนวนสัตว์ติดเชื้อที่ให้ผลบวก ต่อโรคพิษสุนัขบ้าสูงถึง 1,476 ตัวอย่าง ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 พบผู้เสียชีวิตลดลงเหลือเพียง 3 ราย มีจำนวนสัตว์ติดเชื้อ 236 ตัวอย่าง ขณะที่ในปีนี้ข้อมูลถึงเดือน ส.ค. 2564 มีผู้เสีย 3 ราย และมีจำนวนสัตว์ติดเชื้อ 128 ตัวอย่าง ซึ่งคาดอัตราการติดเชื้อที่น้อยลงนี้ อาจเป็นผลจากการที่ผู้คนกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ค่อยออกไปพบเจอสัตว์ที่อาจจะเป็นโรค


“การสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจวิธีการป้องกัน นับเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาชีวิตสัตว์และผู้คน จากโรคร้ายที่คงยังไม่หมดไปจากประเทศไทยง่ายๆ เนื่องจากสุนัขจรจัดซึ่งเป็นสัตว์นำโรคหลักในประเทศไทย ยังมีจำนวนมาก” ผศ.น.สพ.ดร.ทิลดิสร์ กล่าวทิ้งท้าย



ที่มา: คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพ: TNN 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand