

สรุปข่าว
29 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา นายพินิจ รุจิรวนิช นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วยทนายความ เข้ายื่นหนังสือให้กับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่ภาระ ผู้บัญชาการภาค 9 ผ่าน พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รองผู้บัญชาการภาค 9 กรณีที่ ผู้ยื่นได้ร้องเรียนวินัย ต่อ พ.ต.อ.นายหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) ตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ซึ่งตอนนี้ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ เรื่อง ไม่รับเด็กเป็นบุตร มีคำพิพากษา ลงวันที่ 27 พ.ค.2562 ว่า ด.ช.(สงวนชื่อ) มิใช่บุตรของนายพินิจ รุจิรวนิช และศาลคดีหมายเลขแดง ในข้อหาเรียกค่าทดแทนจากการเป็นชู้ ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 พิพากษาให้ พ.ต.อ. ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าทดแทน เป็นเงิน 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยได้มายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.รณศิลป์ เพื่อให้ พ.ต.อ.นายดังกล่าว ออกจากราชการ โดยนำคำพิพากษา มาเป็นหลักฐานในการประกอบการพิจารณาลงโทษทางวินัย โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบเกี่ยวข้องกับตนเอง เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างต่อข้าราชการตำรวจและประชาชนโดยทั่วไป อันจะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมัวหมอง เสื่อมเสีย ขอให้ผู้บัญชาการภาค 9 ช่วยเป็นที่พึ่งแก่ตนเอง และคงไว้ซึ่งความยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป
หลังจากได้ยืนหนังสือแล้ว นายพินิจ ผู้ร้องเรียนได้ลงกราบเท้าของ พล.ต.ต.โพธ รอง ผบช.ภาค 9 เพื่อแสดงความเคารพและขอความเห็นใจ ต่อหน้าสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.โพธ รอง ผบช.ภาค 9 กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า ตนเองจะดำเนินการเร่งรัด ทั้งกระบวนการและความยุติธรรม ให้กับผู้ร้องได้อย่างเต็มที่ ตามอำนาจหน้าที่ที่ตนมี อยากจะบอกกับผู้ร้องว่า ไม่ต้องกังวลใจนัก จริงอยู่ความกังวลใจมันตัดไม่ได้ เพราะทางตำรวจภาค 9 จะดำเนินการทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว และพร้อมที่จะให้การตรวจสอบสอบถามได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้ามีหนังสือในลักษณะอย่างนี้มา โดยผ่านตน ก็จะตรวจสอบอย่างไม่รอช้า
นายพินิจ เปิดเผยว่าหลังจากนี้ไป จะรอและติดตามผลการดำเนินงาน เพราะว่าที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับคำตอบมาว่าการดำเนินไปถึงไหนอย่างไร
ที่มาข้อมูล : -