ชาวเกาะยาว ทำนาปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ในแปลงนาโบราณ

 10 กันยายน 2562 โรงเรียนเกาะยาววิทยา ร่วมกับอำเภอเกาะยาว ราษฎรในพื้นที่ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมมืออนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมการทำนาข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งบรรพบุรุษถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ด้วยการสนับสนุนให้นักเรียนได้ศึกษา เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ การทำนาปลูกข้าว แบบเกษตรอินทรีย์ในแปลงนาโบราณเกือบ 1,000 ไร่ บริเวณบ้านน้ำจืด หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ที่มีการทำนาแปลงใหญ่แหล่งสุดท้ายแห่งเดียวซึ่งเหลืออยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน โดยพันธุ์ข้าวที่นิยมนำมาปลูกได้แก่พันธุ์ดอกมะลิ 105 ปทุมธานี 1 กข 43 กข 77 ไรซ์เบอรี่ ทับทิมชุมแพ หอมดอกติ้ว อยุธยา และพันธุ์เบาลาว ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมือง 

โดยมีหน่วยงานภาคีให้การสนับสนุนแบบบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา ศูนย์วิจัยข้าวกระบี่ สำนักงานพัฒนาที่ดินพังงา ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งเสริมการจัดทำข้อมูลแผนที่รายแปลง ถ่ายทอดและจัดเวทีเรียนรู้ การตรวจวิเคราะห์ดิน รณรงค์ไถกลบตอซัง ส่งเสริมการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 1,650 กิโลกรัม เพื่อให้เกษตรกรสมาชิกนาแปลงใหญ่ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดี มีผลผลิตสูง ต้านทานแมลง และโรคพืช รวมทั้งจัดทำแปลงเรียนรู้โดยเกษตรกรต้นแบบ เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวที่ปลอดภัย ได้มาตรฐานตามหลักเกษตรดีที่เหมาะสม หรือ GAP

นางฐิติพร เปกะมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเกาะยาววิทยา เปิดเผยว่า อยากให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ และตระหนักถึงบทบาท และความสำคัญของบรรพบุรุษที่สืบทอดการทำนาข้าวแบบเกษตรอินทรีย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันการทำนาข้าวในภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามัน นับวันจะลดน้อยลง และอาจสูญหายไปในที่สุด

นายธีระพล สืบพงศ์ นักเรียน เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกสนุก และภาคภูมิใจ ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกฝนการทำนาปลูกข้าว ในที่ดินของบรรพบุรุษ โดยที่ครอบครัวของตนเองก็ยังมีอาชีพการทำนาปลูกข้าว ซึ่งทำเองทั้งหมดทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่เพาะต้นกล้า ไปจนถึงการร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว ทั้งนี้ นางกัลป์ยาณี อ่อนทอง เกษตรกรเกาะยาวน้อย ระบุว่า การทำนาข้าวที่เกาะยาวน้อย ระบุว่า การทำนาปลูกข้าวในพื้นที่เกาะยาว จะทำกันแบบเกษตรอินทรีย์มาตั้งแต่โบราณ เพื่อเก็บผลผลิตไว้รับประทานเองอย่างปลอดภัย โดยไม่ใช้สารเคมี และปุ๋ยเคมี ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าผลผลิตข้าวในอำเภอเกาะยาวมีมาตรฐาน และความปลอดภัยสูงสุด

นางอุษณีย์ เจียมรา เกษตรอำเภอเกาะยาว เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวในอำเภอเกาะยาว จำนวน 277 ราย ในพื้นที่ 927 ไร่ ซึ่งมีความผูกพันกับวิถีชีวิตการทำนามาตั้งแต่บรรพบุรุษยาวนานกว่า 100 ปี ราษฎรเกาะยาวจึงรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพการทำนาปลูกข้าว ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรรายย่อย วางระบบการผลิต บริหารจัดการด้วยกระบวนการโรงเรียนเกษตรกรชาวนาขับเคลื่อนถ่ายทอดความรู้ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตข้าวให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้