เหตุจำเลยเสียชีวิต! อุทธรณ์เลื่อนตัดสิน 11 ทรชนรุมข่มขืนเด็กหญิงเกาะแรด

วันที่ 8 ตุลาคม 2562 ที่ศาลจังหวัดพังงา ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ในคดีชายในหมู่บ้านเกาะแรด ตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 11 คน ร่วมกันข่มขืนเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในหมู่บ้านเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยที่ 1-7 จำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 8 จำคุก 45 ปี ส่วนจำเลย 9 และจำเลยที่ 11 จำคุกรายละ 15 ปี สำหรับจำเลยที่ 10 ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี 4 เดือน

โดยวันนี้จำเลย พร้อมด้วยทนายความและญาติในคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 14 ปี เมื่อปี 2559 ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 วันนี้ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย นายเฉลิม หรือ หว๋าบำ สามีน จำเลยที่ 4 นายณัฐวุฒิ หรือ กาหรีม บุตรน้อย จำเลยที่ 7 นายกีรติ หรือ อาหมาด สุเมน จำเลยที่ 8 นายสายัณห์ หรือ ย้อย สุเมน จำเลยที่ 9 นายรังสันต์ หรือ ฮาสัน ชายเลี้ยง จำเลยที่ 10 และนายนาวิก หรือ หลี จารึก จำเลยที่ 11 ส่วนจำเลยอีก 4 รายถูกคุมขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย นายวรชิต หรืออิฉา คงบุตร จำเลยที่ 1 นายชาติชาย หรือเล็ก ศรีรัตน์ จำเลยที่ 2 นายบุญพจน์ หรือ อาหลี นนทรี จำเลยที่ 3 นายธวัชชัย หรือ ยูนุส เถาว์กู จำเลยที่ 6 หลังศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2561 โดยศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 11 คน ในข้อหาร่วมกันรุมโทรมข่มขืนกระทำชำเรา หญิงสาวอายุไม่เกิน 15 ปี ที่มิใช่ภรรยาของตน และข้อหาบุกรุกเคหสถานในยามค่ำคืนรวมถึงข้อหาอื่นๆ ตัดสินจำคุกจำเลยที่ 1-7 ตลอดชีวิต นายกีรติ จำเลยที่ 8 จำคุก 45 ปี ส่วนนายสายัณห์ จำเลยที่ 9 และนายนาวิก จำเลยที่ 11 ลงโทษจำคุกคนละ 15 ปี นายรังสันต์ จำเลยที่ 10 ลงโทษจำคุก 20 ปี 4 เดือน พร้อมทั้งให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ฝ่ายเด็กหญิงและมารดากว่า 6 ล้านบาท

จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์การพิจารณาคดีต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ แต่เนื่องจาก นายสุชีพ สุเมนท์ อายุ 57 ปี จำเลยที่ 5 ไม่ได้มารับฟังคำพิพากษา โดยญาติอ้างว่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ศาลจึงได้พิจารณาไต่สวนเพิ่มเติม และกำหนดอ่านคำพิพากษาใหม่ในวันที่ 14 มกราคม 2563

นายสรรเพชร ทิพย์มณเฑียร ทนายจำเลย เปิดเผยว่า ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานและความบริสุทธิ์ของจำเลยทั้งหมด แต่หากผลคำพิพากษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ก็จะใช้สิทธิ์ในการต่อสู้ต่อในศาลชั้นฎีกาต่อไป ขณะที่จำเลย และญาติ ต่างเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม