สำรวจน้ำตกห้วยหก จ.ลำพูน คาดแผ่นดินไหวทำน้ำใต้ดินไหลออกมามากกว่าปกติ

โดยเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 นางสาวศิริพร กันธิยะ นายอำเภอบ้านธิ พร้อมด้วยนายกันย์ จำนงค์ภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ นางสาวจันทนี ดวงคำสวัสดิ์ นักธรณีวิทยาชำนาญการจากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 รวมถึงทีมงาน ลงพื้นที่สำรวจแหล่งที่มาของน้ำที่ไหลผิดฤดูกาล จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณน้ำตกห้วยหก ซึ่งมีลักษณะเป็นสองแง่ พบว่าแง่ด้านขวามีน้ำไหลลงมาเป็นน้ำตกทั้งหมด 3 ชั้น และมีแอ่งน้ำขนาดเล็กด้านล่าง จากการเดินขึ้นไปเหนือน้ำตกและพบว่าบริเวณที่มีน้ำซับไหลออกมานั้น เป็นร่องรอยเดียวกับตาน้ำหรือน้ำซับที่เคยมีน้ำไหลในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ซึ่งปกติจะแห้งในช่วงฤดูแล้ง แต่หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม กลับมีน้ำไหลออกมามากกว่าปกติ และไหลในฤดูแล้ง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา

ทีมสำรวจยังพบว่า สภาพโดยรอบตาน้ำเป็นผาหินปกคลุมด้วยป่าเบญจพรรณที่มีไผ่ และมีตาน้ำทั้งหมด 4 แห่ง ซึ่งได้ทำการจับพิกัดและระดับความสูงไว้ดังนี้

- จุดที่ 1: พิกัด X:523875 Y:2058332 ความสูง 642 เมตร

- จุดที่ 2: พิกัด X:523726 Y:2058437 ความสูง 605 เมตร

- จุดที่ 3: พิกัด X:523717 Y:2058533 ความสูง 581 เมตร

- จุดที่ 4: พิกัด X:523527 Y:2058768 ความสูง 546 เมตร

โดยพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนเทือกเขาซึ่งเป็นสันปันน้ำ เขตติดต่อระหว่างอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน มีความสูงที่ยอดดอยประมาณ 869 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง

นักธรณีวิทยาให้ความเห็นว่า น้ำที่ไหลออกมามากอยู่ในขณะนี้น่าจะเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาจจะมีน้ำไหลตลอดไปหรืออาจจะไหลเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่แนะนำว่าในช่วงนี้ยังไม่ควรนำน้ำไปบริโภค ขอให้รอเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนหรือโลหะหนักในห้องทดลองก่อน โดยบริเวณตาน้ำมีกลิ่นคล้ายกำมะถันและมีสีแดง ๆ แต่เมื่อไหลผ่านลำห้วยซึ่งเป็นทรายจึงดูใสไม่มีสี

ด้าน นายกันย์ จำนงค์ภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ระบุด้วยว่า ในช่วงนี้ทางอุทยานฯ ยังไม่แนะนำให้ประชาชนเข้ามาเที่ยวชมในพื้นที่น้ำตกห้วยหก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ประกอบกับมีการประกาศปิดป่าจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568  ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านสื่อออนไลน์ของอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ และรอข้อมูลที่ชัดเจนจากนักธรณีวิทยาต่อไป