
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. พล.ต.ยุทธนา มีเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) เปิดเผยว่า จากการที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจ กองพลทหารราบที่ 11 (กรม ร.ฉก.พล.ร.11) ณ สนามฝึกทางยุทธวิธี ศูนย์การทหารปืนใหญ่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญของกองทัพบก และต้องขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ร่วมมือร่วมใจทำให้การฝึกสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งนี้ท่านผบ.ทบ. ได้ชื่นชมและขอบคุณในความตั้งใจของกำลังพลทุกนาย ท่านบอกว่าเรามากันไกลมาก เราได้เสริมสร้างทำการฝึกเพิ่มขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง
“ถือว่าเราได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยกัน เป็นภารกิจของกองทัพบก ไม่ใช่เฉพาะของกองพลทหารราบที่11 เท่านั้น ผบ.ทบ.ได้ฝากในเรื่องของพัฒนาการของกองทัพต้องอย่าหยุดยั้ง แม้ว่าเราจะมาไกลกันมากแล้ว แต่เรายังต้องพัฒนากันต่อไป ทั้งแต่ละส่วนงาน กำลังพลทุกนายจะต้องพัฒนาตัวเอง ผู้บังคับหน่วยจะต้องพัฒนาหน่วยของตนในทุกระดับ โดยการฝึกในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่มุ่งพัฒนาหน่วยรบเฉพาะกิจต้นแบบของกองทัพไทย ให้พร้อมตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงของชาติในทุกมิติ ด้วยศักยภาพที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการของกองทัพชั้นนำในภูมิภาค” ผบ.พล.ร.11 กล่าว
ทั้งนี้ การฝึกกองทัพบกได้โชว์ขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์หลัก อาทิ รถยานเกราะล้อยาง STRYKER, รถถัง M48A5, ระบบยิงสนับสนุน และอาวุธประจำหน่วยที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย รองรับรูปแบบการรบใหม่ ก่อนเข้าสู่ไฮไลต์สำคัญของภารกิจ คือ การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX: Combined Arms Live Fire Exercise) ในสถานการณ์จำลองการรบตามแบบ (Conventional Warfare) เพื่อทดสอบความพร้อมและการประสานการรบของหน่วยระดับกรมภายใต้แนวคิด Combined Arms Operations โดยหน่วยรับการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจ จัดกำลังจากกรมทหารราบที่ 112 กองพลทหารราบที่ 11 เป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์หลัก และหน่วยต่างๆ ตามระบบปฏิบัติการในสนามรบ ประกอบด้วย กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 1, กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารช่างที่ 1, กองพันเสนารักษ์ที่ 1, กองทหารพลาธิการที่ 1, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์, กองร้อยทหารสารวัตรสนามที่ 3 กองพันทหารสารวัตรที่ 12, กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 1, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ, หน่วยข่าวกรองทางทหาร, กองพลทหารปืนใหญ่, ศูนย์การบินทหารบก และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก รวมจำนวนกำลังพลกว่า 5,000 นาย
สรุปข่าว
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. พล.ต.ยุทธนา มีเจริญ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) เปิดเผยว่า จากการที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจ กองพลทหารราบที่ 11 (กรม ร.ฉก.พล.ร.11) ณ สนามฝึกทางยุทธวิธี ศูนย์การทหารปืนใหญ่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญของกองทัพบก และต้องขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ร่วมมือร่วมใจทำให้การฝึกสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งนี้ท่านผบ.ทบ. ได้ชื่นชมและขอบคุณในความตั้งใจของกำลังพลทุกนาย ท่านบอกว่าเรามากันไกลมาก เราได้เสริมสร้างทำการฝึกเพิ่มขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง
“ถือว่าเราได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยกัน เป็นภารกิจของกองทัพบก ไม่ใช่เฉพาะของกองพลทหารราบที่11 เท่านั้น ผบ.ทบ.ได้ฝากในเรื่องของพัฒนาการของกองทัพต้องอย่าหยุดยั้ง แม้ว่าเราจะมาไกลกันมากแล้ว แต่เรายังต้องพัฒนากันต่อไป ทั้งแต่ละส่วนงาน กำลังพลทุกนายจะต้องพัฒนาตัวเอง ผู้บังคับหน่วยจะต้องพัฒนาหน่วยของตนในทุกระดับ โดยการฝึกในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่มุ่งพัฒนาหน่วยรบเฉพาะกิจต้นแบบของกองทัพไทย ให้พร้อมตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงของชาติในทุกมิติ ด้วยศักยภาพที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการของกองทัพชั้นนำในภูมิภาค” ผบ.พล.ร.11 กล่าว
ทั้งนี้ การฝึกกองทัพบกได้โชว์ขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์หลัก อาทิ รถยานเกราะล้อยาง STRYKER, รถถัง M48A5, ระบบยิงสนับสนุน และอาวุธประจำหน่วยที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย รองรับรูปแบบการรบใหม่ ก่อนเข้าสู่ไฮไลต์สำคัญของภารกิจ คือ การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX: Combined Arms Live Fire Exercise) ในสถานการณ์จำลองการรบตามแบบ (Conventional Warfare) เพื่อทดสอบความพร้อมและการประสานการรบของหน่วยระดับกรมภายใต้แนวคิด Combined Arms Operations โดยหน่วยรับการฝึกกรมทหารราบเฉพาะกิจ จัดกำลังจากกรมทหารราบที่ 112 กองพลทหารราบที่ 11 เป็นหน่วยดำเนินกลยุทธ์หลัก และหน่วยต่างๆ ตามระบบปฏิบัติการในสนามรบ ประกอบด้วย กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 1, กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารช่างที่ 1, กองพันเสนารักษ์ที่ 1, กองทหารพลาธิการที่ 1, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์, กองร้อยทหารสารวัตรสนามที่ 3 กองพันทหารสารวัตรที่ 12, กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 1, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ, หน่วยข่าวกรองทางทหาร, กองพลทหารปืนใหญ่, ศูนย์การบินทหารบก และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก รวมจำนวนกำลังพลกว่า 5,000 นาย