
แจ้งเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงแนวชายแดน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะด้วยอาวุธในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวระยะยิงของอาวุธ BM-21, PHL-81 และ Type-90B ซึ่งครอบคลุมรัศมีระหว่าง 20 - 40 กิโลเมตร
พื้นที่ที่ถูกประกาศเป็น เขตเสี่ยงภัยสีแดง (ระยะยิง 0 - 20 กิโลเมตร) ได้แก่
• อำเภอน้ำยืน , น้ำขุ่น (บางส่วน) จังหวัดอุบลราชธานี
• อำเภอภูสิงห์, อำเภอกันทรลักษณ์ , อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ (บางส่วน)
ส่วนพื้นที่ใน เขตเสี่ยงภัยสีเหลือง (ระยะยิง 21 - 40 กิโลเมตร) ได้แก่
• อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี
• อำเภอภูสิงห์, อำเภอกันทรลักษณ์ , อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ (บางส่วน)


สรุปข่าว
แจ้งเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงแนวชายแดน
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะด้วยอาวุธในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวระยะยิงของอาวุธ BM-21, PHL-81 และ Type-90B ซึ่งครอบคลุมรัศมีระหว่าง 20 - 40 กิโลเมตร
พื้นที่ที่ถูกประกาศเป็น เขตเสี่ยงภัยสีแดง (ระยะยิง 0 - 20 กิโลเมตร) ได้แก่
• อำเภอน้ำยืน , น้ำขุ่น (บางส่วน) จังหวัดอุบลราชธานี
• อำเภอภูสิงห์, อำเภอกันทรลักษณ์ , อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ (บางส่วน)
ส่วนพื้นที่ใน เขตเสี่ยงภัยสีเหลือง (ระยะยิง 21 - 40 กิโลเมตร) ได้แก่
• อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี
• อำเภอภูสิงห์, อำเภอกันทรลักษณ์ , อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ (บางส่วน)


เริ่มยิงตั้งแต่ตี 4 ต่อเนื่องจนถึงเช้า
เหตุรุนแรงปะทุขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. บริเวณช่องบกและภูมะเขือ จังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยกองกำลังฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงด้วยอาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่สนามและจรวด BM-21 เข้ามาในฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลา 08.00 น.
ฝ่ายไทยได้ใช้สิทธิในการป้องกันตัวตามกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการตอบโต้ด้วยอาวุธยิงสนับสนุน พร้อมออกประกาศเตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากพื้นที่ปะทะ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน
ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มต่อเนื่อง
ด้าน นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานยอดผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ดังนี้
พลเรือน
• เสียชีวิต 13 ราย
• บาดเจ็บ 32 ราย
รวม 45 ราย
ทหาร
• เสียชีวิต 1 ราย
• บาดเจ็บ 14 ราย
รวม 15 ราย
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงและสาธารณสุขยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสม. หวังสถานการณ์ความขัดแย้งจะคลี่คลายโดยเร็วบนหนทางแห่งสันติภาพ
ธนาคารปิดบริการสาขาในพื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นการชั่วคราว
“แพทองธาร” ประณามกัมพูชาใช้ความรุนแรง พร้อมหนุนทุกมาตรการตอบโต้ภายใต้กรอบกฎหมาย
กต. ออกแถลงการณ์ ประณามกัมพูชาละเมิดอธิปไตย-เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ
ศธ. สั่งปิดโรงเรียนชายแดนสุรินทร์เพื่อความปลอดภัย หลังเกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
- สิงคโปร์-ญี่ปุ่นเรียกร้อง ไทย-กัมพูชาใช้ความอดกลั้น หวังให้เจรจาคลี่คลายความขัดแย้ง
- UNICEF เรียกร้องยุติความรุนแรง ให้ความคุ้มครองเด็กที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
- นุ้ย สุจิรา-นิกกี้ ณฉัตร บริจาคเลือด สภากาชาดไทย ขอให้ทุกคนปลอดภัยเหตุปะทะ ไทยกัมพูชา
- สภากาชาดไทย ต้องการโลหิตสำรอง วันละ 500 ถุง เพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลพื้นที่ชายแดน
- เช็กที่นี่ ธนาคารไหนบ้าง? ปิดบริการสาขาพื้นที่เสี่ยงชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการชั่วคราว
- เตือนภัย “ข่าวปลอมออนไลน์” ช่วงสถานการณ์ชายแดน – การเมืองร้อนแรง! เช็กก่อนแชร์
- "มาริษ" ถึง UN ชี้แจง กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย
ที่มาข้อมูล : กองทัพภาคที่ 2
ที่มารูปภาพ : กองทัพภาคที่ 2
