
สรุปข่าว
วันที่ 30
มกราคม 2563 นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่แปลงปลูกดอกเบญจมาศ
ของนางสาวน้ำอ้อย ยาประสิทธิ์ อายุ 41 ปี
ปลูกอยู่ที่บ้านวัดหงษ์ หมู่ 3 ตำบลย่านยาว
อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ซึ่งปลูกดอกเบญจมาศ ในพื้นที่ 2 งาน เป็นการปลูกแบบไล่รุ่น
เพื่อให้มีการตัดขายได้ตลอด โดยปลูกดอกเบญจมาศเนื่องจาก เป็นพืชใช้น้ำน้อย
ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ปลูกข้าว จึงทดลองแบ่งพื้นที่มาปลูกไม้ดอก โดยเลือกดอกเบญจมาศ
เนื่องจากราคาดี ซึ่งในจังหวัดพิจิตรยังมีเกษตรกรปลูกน้อย
ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดร้านขายดอกไม้ในจังหวัดพิจิตร


นางน้ำอ้อย
ยาประสิทธิ์ เล่าว่า เริ่มปลูกช่วงระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยการชำยอด
ปลูกแบบยกร่องระยะห่างระหว่างร่อง 60 เซนติเมตร
จะเริ่มตัดส่งขายได้ในช่วงเดือน ธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม
ซึ่งช่วงระหว่างเดือนดังกล่าวเป็นช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน งานบุญเป็นต้น
ทำให้ได้ราคาดี มีต้นทุนการผลิตประมาณ 5,000 บาทสำหรับด้านการตลาดมีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวนซึ่งเบญจมาศมีหลายสี
เช่นสีเหลือง สีขาว ชมพูแก้ว
ขาวแก้ว หรือมัม โดยแบ่งการการจำหน่ายเป็น เบญจมาศ ดอกเล็ก หรือที่เรียกว่า มัม จำหน่าย กิโลกรัมละ 80 บาท ตัดจำหน่ายประมาณสัปดาห์ละ 40 กิโลกรัม เบญจมาศ ดอกใหญ่ จำหน่าย ดอกละ 3 - 4 บาท ตัดจำหน่ายประมาณสัปดาห์ละ 400 ดอก
ทำให้เกษตรกรรายนี้มีรายได้เฉลี่ยโดยเริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยวประมาณเดือนละ 17,000 บาท ซึ่งมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 4 เดือน เกษตรกรจะมีรายได้ประมาณ 68,000 บาท ซึ่งนับว่าในพื้นที่ 2 งาน สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ


ด้านนายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร ได้แนะนำเกษตรกรรายนี้เพิ่มเติมว่า หากเป็นไปได้ให้เปลี่ยนแปลงปลูกดอกเบญจมาศในรอบถัดไป เพื่อลดการเกิดโรคและแมลง ทั้งนี้ หากเกษตรกรท่านใดสนใจที่จะปลูก ดอกเบญจมาศ ต้องศึกษาเรื่องโรคและแมลง รวมถึงการดูแลก่อนปลูก และต้องศึกษาตลาดก่อนที่จะปลูก ซึ่งเกษตรกรรายนี้ได้ปลูกพืชทดแทนในพื้นที่ทำนาอีกหลายชนิดเช่น ปลูกดอกดาวเรือง ในพื้นที่ประมาณ 1 งาน โดยตัดจำหน่ายทุกวัน มีรายได้จากการปลูกดาวเรืองประมาณวันละ 500 -600 บาทต่อวัน และพื้นที่ ที่เป็นที่นาได้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีกด้วย นับว่าเกษตรกรรายนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างที่สามารถสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้งนี้ เกษตรจังหวัดพิจิตร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มีแนวทางที่จะให้เกษตรกรแปลงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลหาแนวทางส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
- “ทาจิกิสถาน” เสี่ยงอดตาย ไร้ทุน ไร้น้ำ ไร้อนาคต
- นบข. ไฟเขียว 4 มาตรการช่วยข้าวนาปี 68/69 วงเงินกว่า 5 หมื่นล้าน
- "จุรินทรีย์จาวปลวก"แนวคิดชาวนาพิจิตร ช่วยลดต้นทุนทำนา | เรื่องดีดีทั่วไทย | 18-06-68
- นาซาเตือนโลกกำลังวิกฤต สภาพอากาศสุดขั้วเกิดไม่หยุด น้ำท่วมกว่าเคยแถมแล้งนานเกินคาด
- 17 มิถุนายน วันต่อต้านปัญหาภัยแล้ง และฝนแล้งของโลก
- กรุงคาบูลเสี่ยงน้ำหมด ในอีก 10 ปีข้างหน้า กระทบกว่า 7 ล้านชีวิต
- “อิรัก” แล้งรุนแรง น้ำสำรองต่ำสุดใน 80 ปี บีบเกษตรกรทิ้งพื้นที่เพาะปลูก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand