ฝุ่นละอองเชียงรายวิกฤตหนัก-ป่วยระบบทางเดินหายใจ 30,000 คน

ผลพวงของหมอกควันข้ามแดน ยังคงส่งผลให้สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปกคลุมจังหวัดเชียงราย ยังคงรุนแรงและอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ และอำเภอแม่จัน ซึ่งผลการตรวจวัดค่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย เมื่อเวลา 10.00 น. พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก กว่า 2.5 ไมครอน สูงถึง 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 

ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก กว่า 10 ไมครอน พุ่งสูงถึง 214  ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถึงแม้จะลดลงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวานนี้ แต่ยังคงเป็นปริมาณที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ทั่วตัวเมืองแม่สายและตามท้องถนน มองเห็นเป็นหมอกควันสีเทาปกคลุมอย่างชัดเจน 

และจากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ได้รายงานสถานการณ์สุขภาพของประชาชนทั้งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ระหว่างวันที่ 1-9 มีนาคมที่ผ่านมาว่า มีผู้ป่วยสะสมมากถึง 29,275 ราย โดยเป็นกลุ่มโรคทางเดินหายใจ 12,455  ราย ไข้หวัดใหญ่ 173 ราย คอหออักเสบเฉียบพลัน 2,460 ราย จมูกอักเสบเรื้อรัง 214 ราย และหลอดลมอักเสบ 1,762 ราย 

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโรคหัวใจหลอดเลือดและสมองอุดตันขาดเลือด  3,610 ราย กลุ่มโรคตาอักเสบ 6,753 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 6,753 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบระยะยาวประเภทมะเร็งปอด 545 ราย เมื่อเปรียบเทียบเชิงสัดส่วนพบว่า โรคในกลุ่มทางเดินหายใจมีมากที่สุดถึง 43% รองลงมาคือโรคผิวหนังอักเสบ 23% โรคตาอักเสบ 20% กลุ่มโรคหัวใจหลอดเลือดและสมองอุดตันขาดเลือด 12% และโรคมะเร็งปอด 2% ดังนั้นในช่วงที่เกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควันที่อยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ จึงขอให้ประชาชนได้ระมัดระวังดูแลสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่จะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ