ลุ้น! พรุ่งนี้ ศาลชี้ชะตา 'บุญทรง-พวก' ทุจริตข้าวจีทูจี

วันนี้ (5ก.ย.62) นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ จำเลยคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กล่าวถึงการนัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีดังกล่าว ว่าในฐานะทนายความได้รับหมายแจ้งจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว เพื่อนัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีวันพรุ่งนี้ เวลา 11.00 น. โดยในส่วนนายบุญทรงที่อยู่ในเรือนจำ ได้ทราบนัดแล้วเช่นกัน ซึ่งจากการพูดคุยกับนายบุญทรง เจ้าตัวพร้อมที่จะฟังผลคำพิพากษาในวันดังกล่าว โดยเมื่อมีหมายศาลแจ้งถึงฝ่ายจำเลยแล้ว ก็คาดว่าจะมีการอ่านคำพิพากษาตามวันเวลาที่กำหนด ขณะที่จำเลยทุกคนก็หวังที่จะได้รับความเมตตาจากศาล

ขณะที่นายธนกร แหวกวารี ทนายความกลุ่มข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ และสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยร่วมในคดีดังกล่าว ได้รับหมายศาลแจ้งกำหนดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์แล้วเช่นกัน ซึ่งในการยื่นอุทธรณ์คดีของจำเลยที่ 4-6 ที่ตนรับผิดชอบดูแล ก็ยื่นอุทธรณ์ทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งจำเลยก็ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย 

ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ยื่นเรื่องร้องในคดีจีทูจี ได้ให้ความเห็นว่า ถือเป็นเรื่องนี้ ที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560 กำหนดให้คดีของนักการเมือง สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งเป็นหลักการที่เห็นด้วย เพราะผู้ถูกร้องหรือจำเลย จะสามารถต่อสู้คดีได้ และถือเป็นมาตราฐานในกระบวนการยุติธรรม  ทั้งนี้ไม่ว่าศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในชั้นอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร ขอให้ทุกฝ่ายน้อมรับ ขณะเดียวกัน นายแพทย์วรงค์ ยังเรียกร้องปปช.เร่งดำเนินการขยายผล กรณีจีทูจี ภาค 2 จำนวน 14 ล้านตันด้วย หลังปปช.ตรวจสอบพบเส้นทางการระบายข้าว ในโครงการนี้เข้าข่ายการทุจริต

สำหรับคดีดังกล่าว ซึ่งมีการกล่าวหากลุ่มนักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรี และกลุ่มข้าราชการ รวมทั้งเอกชนประกอบกิจการโรงสีข้าว รวม 28 ราย ร่วมกันทุจริตโครงการระบายข้าวจีทูจีนั้น อัยการสูงสุด ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2558 

ทั้งนี้ระหว่างพิจารณา พ.ต.วีระวุฒิ หรือ หมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 คนสนิทของนายอภิชาติ หรือเสี่ย เปี๋ยง ได้หลบหนีคดีไป ศาลจึงให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว (ออกหมายจับรอติดตัวกลับมาดำเนินคดี) สุดท้ายชั้นพิจารณาจึงเหลือจำเลยทั้งสิ้น 26 ราย โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้คดี