"เศรษฐา" ร่วมแห่ขบวนขันหมาก ยินดีคู่รัก LGBTQAI จดทะเบียนสมรส หลัง กม.สมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้วันแรก

"เศรษฐา" ร่วมแห่ขบวนขันหมาก ยินดีคู่รัก LGBTQAI จดทะเบียนสมรส หลัง กม.สมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้วันแรก

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.  ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์  รมช.มหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเดินแห่ขบวนสมรสเท่าเทียม ซึ่งจัดขึ้นที่ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรก ภายหลังกฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการในวันนี้เป็นวันแรก (23 ม.ค.2568)

 

จากนั้น ได้มีการเปิดคลิปสารแสดงความยินดีจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายจนประสบความสำเร็จ

 

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม  กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นกฎหมายที่ตนและพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งยอมรับว่าการผลักดันมีความล่าช้า เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าใจผิดว่าเป็นการเรียกร้องสิทธิที่เหนือกว่า ทั้งที่จริงเป็นการเรียกร้องสิทธิให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม และตนไม่ขอชุบมือเปิบว่าเป็นผลงานของตัวเอง แต่ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้จากหลายภาคส่วน หลายพรรคการเมือง การมีกฎหมายฉบับนี้ทำให้ความรักที่มีต่อกันไม่ต้องแอบอยู่ข้างหลัง สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มตัว 

 

“สองวันที่ผ่านมา ผู้นำประเทศหนึ่งได้เข้ารับตำแหน่ง และประกาศชัดว่า ประเทศเขามีแค่ 2 เพศเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าคงไม่เหมาะสมที่จะมากล่าวความขัดแย้งตรงนี้ แต่การนำของรัฐบาลไทย ผมคิดว่าเราหัวใจใหญ่กว่า” นายเศรษฐา กล่าวพร้อมขอโทษประชาชนที่รอคอยกฎหมายนี้มานานกว่า 20 ปี แต่ยืนยันว่า มาสายยังดีกว่าไม่มา

 

สรุปข่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.  ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์  รมช.มหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเดินแห่ขบวนสมรสเท่าเทียม ซึ่งจัดขึ้นที่ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรก ภายหลังกฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการในวันนี้เป็นวันแรก (23 ม.ค.2568)

 

จากนั้น ได้มีการเปิดคลิปสารแสดงความยินดีจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายจนประสบความสำเร็จ

 

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม  กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นกฎหมายที่ตนและพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งยอมรับว่าการผลักดันมีความล่าช้า เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าใจผิดว่าเป็นการเรียกร้องสิทธิที่เหนือกว่า ทั้งที่จริงเป็นการเรียกร้องสิทธิให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม และตนไม่ขอชุบมือเปิบว่าเป็นผลงานของตัวเอง แต่ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้จากหลายภาคส่วน หลายพรรคการเมือง การมีกฎหมายฉบับนี้ทำให้ความรักที่มีต่อกันไม่ต้องแอบอยู่ข้างหลัง สามารถแสดงออกได้อย่างเต็มตัว 

 

“สองวันที่ผ่านมา ผู้นำประเทศหนึ่งได้เข้ารับตำแหน่ง และประกาศชัดว่า ประเทศเขามีแค่ 2 เพศเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าคงไม่เหมาะสมที่จะมากล่าวความขัดแย้งตรงนี้ แต่การนำของรัฐบาลไทย ผมคิดว่าเราหัวใจใหญ่กว่า” นายเศรษฐา กล่าวพร้อมขอโทษประชาชนที่รอคอยกฎหมายนี้มานานกว่า 20 ปี แต่ยืนยันว่า มาสายยังดีกว่าไม่มา

 

ท่ามกลางบรรดาคู่รัก LGBTQ ที่พร้อมใจกันเดินทางมาร่วมงาน “Marriage Equality สมรสเท่าเทียม” ทางสำนักงานเขตปทุมวันได้จัดเจ้าหน้าที่มาให้บริการรับจดทะเบียนสมรสแก่คู่รักไปพร้อมกันกับ 878 อำเภอ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร

 โดยคู่แรกที่เดินทางมาจดทะเบียนของเขตปทุมวัน คือ "พลอยนภัส จิราสุคนธ์" กับ "ขวัญพร กงเพ็ชร"  หลังใช้เวลาคบหาดูใจกันมา 17 ปี โดยทั้งคู่บอกว่าดีใจที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อให้การใช้ชีวิตหลังจากนี้เป็นไปตามกฎหมายและไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

สมรสเท่าเทียม
คู่รัก LGBTQ
เศรษฐา ทวีสิน
หลากเพศ
จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม