
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน FTI EXPO 2025 จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังอุตสาหกรรมไทย เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นงานมหกรรมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมไทย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แสดงความพร้อมและศักยภาพความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุดประกายอุตสาหกรรมไทย สร้างเศรษฐกิจใหม่นำประเทศสู่ความยั่งยืน” โดยอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน GDP ของประเทศ ทั้งการผลิต การพัฒนาคน เพื่อให้อุตสาหกรรมเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศไทยสู่เวทีโลก และเชื่อว่างานในวันนี้จะสร้างแรงบันดาลใจในภาคธุรกิจ SMEs โดยรัฐบาลและเอกชน ร่วมกันทำงานเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมของไทยจากการที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการวางยุทธศาสตร์พัฒนาภาคอุตสาหกรรมในหลายมิติ อาทิ อุตสาหกรรมในอนาคต การสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการพัฒนาคน ที่จะยกระดับฐานการผลิตสินค้ามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาส ความแตกต่างให้กับสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย โดยเฉพาะ SMEs นอกจากนี้ จะปรับปรุงกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน ทั้งกฎหมายระดับกระทรวง และผลักดันกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เอสเอ็มอีมีโอกาสเพิ่มการลงทุนและเพิ่มศักยภาพ ทั้งนี้จะจัดตั้งคณะทำงานจัดการกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง แนวทาง 4GO ที่สามารถเปลี่ยนอุตสาหกรรมของไทยให้ทั่วโลกเกิดการยอมรับและมองเห็น ประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, Go Global และ Go Green ที่ครอบคลุมในเรื่องของดิจิทัล นวัตกรรม การขยายตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้ การที่ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศต่างๆ จะนำไปสู่การร่วมมือในเรื่องของการวิจัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้ภาคเอกชนมาร่วมมือกันทำงานอย่างบูรณาการ จะเป็นการให้ประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม ย้ำว่า ประเทศไทยมีบุคคลที่มีศักยภาพอีกมาก พร้อมพัฒนาบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมไทย ให้มีคุณค่า มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกันจะสามารถพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน เศรษฐกิจถูกกระตุ้น ประเทศไทยมีกินมีใช้ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันเช่นนี้
สรุปข่าว
นายกรัฐมนตรี เปิดงาน FTI EXPO 2025 มองภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต เน้นแนวทาง 4GO หนุนอุตสาหกรรม เชื่อ ไทยมีศักยภาพพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน FTI EXPO 2025 จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “เสริมพลังอุตสาหกรรมไทย เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นงานมหกรรมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมไทย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แสดงความพร้อมและศักยภาพความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมไทย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุดประกายอุตสาหกรรมไทย สร้างเศรษฐกิจใหม่นำประเทศสู่ความยั่งยืน” โดยอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน GDP ของประเทศ ทั้งการผลิต การพัฒนาคน เพื่อให้อุตสาหกรรมเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศไทยสู่เวทีโลก และเชื่อว่างานในวันนี้จะสร้างแรงบันดาลใจในภาคธุรกิจ SMEs โดยรัฐบาลและเอกชน ร่วมกันทำงานเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมของไทยจากการที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการวางยุทธศาสตร์พัฒนาภาคอุตสาหกรรมในหลายมิติ อาทิ อุตสาหกรรมในอนาคต การสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการพัฒนาคน ที่จะยกระดับฐานการผลิตสินค้ามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาส ความแตกต่างให้กับสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย โดยเฉพาะ SMEs นอกจากนี้ จะปรับปรุงกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน ทั้งกฎหมายระดับกระทรวง และผลักดันกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เอสเอ็มอีมีโอกาสเพิ่มการลงทุนและเพิ่มศักยภาพ ทั้งนี้จะจัดตั้งคณะทำงานจัดการกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง แนวทาง 4GO ที่สามารถเปลี่ยนอุตสาหกรรมของไทยให้ทั่วโลกเกิดการยอมรับและมองเห็น ประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, Go Global และ Go Green ที่ครอบคลุมในเรื่องของดิจิทัล นวัตกรรม การขยายตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้ การที่ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศต่างๆ จะนำไปสู่การร่วมมือในเรื่องของการวิจัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้ภาคเอกชนมาร่วมมือกันทำงานอย่างบูรณาการ จะเป็นการให้ประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม ย้ำว่า ประเทศไทยมีบุคคลที่มีศักยภาพอีกมาก พร้อมพัฒนาบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมไทย ให้มีคุณค่า มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกันจะสามารถพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน เศรษฐกิจถูกกระตุ้น ประเทศไทยมีกินมีใช้ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันเช่นนี้
- นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงพร้อมเรียกร้องการหยุดยิงจากทุกฝ่ายในกาซา
- นายกฯ เน้นความสำคัญความเป็นเอกภาพของอาเซียนรับมือความท้าทายระดับโลก
- เปิดผลงาน “นายกฯแพทองธาร” เยือนอังกฤษ -โมนาโก เดินเกมเศรษฐกิจ
- ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นายกฯ ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่อาเซียน
- นายกฯ ห่วงประชาชนแม่สาย กำชับสาธารณสุขเร่งบูรณาการช่วยเหลือ
- นายกฯ ขอประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำ ประกาศแจ้งเตือนจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด
- นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด-พนันออนไลน์ขั้นเด็ดขาด
TNNThailand
จากการที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการวางยุทธศาสตร์พัฒนาภาคอุตสาหกรรมในหลายมิติ อาทิ อุตสาหกรรมในอนาคต การสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการพัฒนาคน ที่จะยกระดับฐานการผลิตสินค้ามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาส ความแตกต่างให้กับสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย โดยเฉพาะ SMEs นอกจากนี้ จะปรับปรุงกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน ทั้งกฎหมายระดับกระทรวง และผลักดันกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เอสเอ็มอีมีโอกาสเพิ่มการลงทุนและเพิ่มศักยภาพ ทั้งนี้จะจัดตั้งคณะทำงานจัดการกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อน เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง แนวทาง 4GO ที่สามารถเปลี่ยนอุตสาหกรรมของไทยให้ทั่วโลกเกิดการยอมรับและมองเห็น ประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, Go Global และ Go Green ที่ครอบคลุมในเรื่องของดิจิทัล นวัตกรรม การขยายตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้ การที่ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศต่างๆ จะนำไปสู่การร่วมมือในเรื่องของการวิจัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้ภาคเอกชนมาร่วมมือกันทำงานอย่างบูรณาการ จะเป็นการให้ประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม ย้ำว่า ประเทศไทยมีบุคคลที่มีศักยภาพอีกมาก พร้อมพัฒนาบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากยิ่งขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมไทย ให้มีคุณค่า มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น มั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกันจะสามารถพัฒนาให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน เศรษฐกิจถูกกระตุ้น ประเทศไทยมีกินมีใช้ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันเช่นนี้