นักการเมืองหญิง รวมพลัง "วันสตรีสากล" ขอพื้นที่ให้ผู้หญิงแสดงบทบาท

ด้าน น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับวันสตรีสากลอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เฉลิมฉลอง หรือทำเพียงสัญลักษณ์ สร้างคำขวัญสวยหรู แต่ต้องนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ทำให้ผู้หญิงได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมในทุกมิติของสังคม และเห็นว่าผู้หญิงนอกจากจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศแล้ว ยังเป็นเจ้าของโอกาสในทุกพื้นที่ของสังคม ดังนั้น ในวันนี้จึงไม่ควรมีเพียงการยกย่องบทบาทของผู้หญิง แต่ต้องผลักดันให้เกิดนโยบายที่เป็นรูปธรรม อาทิ การเข้าถึงตำแหน่งผู้นำทางการเมือง การลดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากความรุนแรงอีกด้วย โดยยังมี 3 ประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ 1.โอกาสที่เท่าเทียมในที่ทำงานและการเมือง ด้วยผู้หญิงยังคงเผชิญอุปสรรคในการก้าวสู่ตำแหน่งบริหารและผู้นำทางการเมือง ต้องมีมาตรการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า 2.ความปลอดภัยและสิทธิในร่างกาย โดยเรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิงและการล่วงละเมิดทางเพศยังเป็นปัญหา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนกฎหมายคุ้มครองที่เข้มแข็งขึ้น และ 3.การสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ผู้หญิงต้องได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมในธุรกิจและแรงงาน พร้อมกับมาตรการช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยวและผู้หญิงในภาคแรงงานนอกระบบ วันสตรีสากลต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่วันรำลึก และพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเป็นแรงผลักดันให้สังคมก้าวสู่ความเสมอภาคอย่างแท้จริง.

ขณะที่ นางสาวกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ สะท้อนว่า วันสตรีสากลเป็นวันที่ทำให้ทุกคนทั่วโลกได้ตระหนักถึงการต่อสู้ของสตรีเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพที่พึงมีเท่าเทียม เสมอภาค กันทุกคน ถือเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์การต่อสู้ของผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย ปัจจุบันมีการส่งเสริมสิทธิสตรีอย่างกว้างขวาง ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของสังคมยุคใหม่

นางสาวกชพร กล่าวว่าปัจจุบันสตรี มีบทบาทสำคัญในทุกเวที ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สตรีจะได้แสดงความสามารถของตัวเองให้เกิดการยอมรับมากขึ้น ดิฉันเชื่อว่า ผู้หญิงทุกคน ทุกอาชีพ จะสามารถเข้าไปมีบทบาท และก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในทุกเวทีทุกระดับได้ และสามารถทำตามความฝันที่ตัวเองต้องการได้ พรรคก้าวอิสระ (INDY) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงมาโดยตลอด และพร้อมสนับสนุนบทบาทของสตรีในทุกมิติ ดังนั้นขอเรียกร้องรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับบทบาทและส่งเสริมสิทธิ ความเสมอภาค และโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับสตรีไทย ทั้งในด้านความเท่าเทียมทางเพศและสังคม มาตรการป้องกันความรุนแรงต่อสตรี การส่งเสริมเศรษฐกิจ และการเงิน การส่งเสริมสิทธิแรงงานหญิง

"ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงไทย มีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ทั้งในบทบาททางตรง และทางอ้อม ดังนั้นจึงขอส่งกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคน ร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่เสมอภาค และเท่าเทียมให้ยั่งยืนต่อไป"