
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงงบประมาณของกระทรวงสาธารสุขประจำปี 2569 ว่า ขอขอบคุณสมาชิก ที่อภิปรายงบประมาณของกระทรวง โดยส่วนใหญ่สมาชิกชื่นชมและแสดงความยินดีมากกว่าตำหนิ จึงเป็นความประทับใจอย่างยิ่ง เพราะตนพยายามตั้งใจทำงานสุดความสามารถ เห็นจากสื่อที่แสดงความชื่นชมงานรัฐบาล โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกที่ วงเงินร่างงบประมาณของกระทรวงขอรับการจัดสรร 372,662.11 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กรม วงเงิน 175,286.96 ล้านบาท 6 หน่วยงานในกำกับ วงเงิน 2,352.65 ล้านบาท 3 กองทุน 195,022.50 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1.วงเงินตามนโยบายกระทรวง 242,477.51 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 8 ส่วน 1.โครงการพระราชดำริฯ 1,303 ล้านบาท 2.ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ 160,241,80 ล้านบาท 3.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด 1,140.82 ล้านบาท 4.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ 37,792.50 ล้านบาท 5.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน 30,418.76 ล้านบาท 6.จัดระบบบริการสุขภาพ เพื่อกลุ่มเปราะบาง และพื้นที่พิเศษ 7,606.77 ล้านบาท 7.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub 335.36 ล้านบาท 8.บริหารจัดการทรัพยากรสาธารณสุข 3,638.50 ล้านบาท 2.วงเงินอื่นๆ 130,184.60 ล้านบาท สำหรับดำเนินการตามภารกิจและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนวิพาษ์วิจารณ์ว่ากองทุนบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ มีโอกาสล้มละลายภายใน 3 ปี ถ้าหากว่า ปล่อยปละไม่จัดการบางอย่างที่มองเห็นก็น่ากลัวอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือปัญหาโรค NCDs เฉพาะปีงบประมาณ 67 ใช้เงินถึง 7.9 หมื่นล้านหรือคิดเป็น 52% ของเงิน สปสช. ถ้าจัดการ NCDs ได้ปัญหาทุกอย่างจะหมด และมั่นใจว่าใน 3 ปี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กองทุนจะล้มละลายนั้น ถ้าจัดการ NCDsอย่างทุกวันนี้งบประมาณจะเหลือเฟือ โดยมีการรณรงค์นับคาร์บจากการไหว้วาน อสม. จึงต้องมีนโยบาย อสม.มั่นคงสาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs ซึ่งเฉพาะโรคเบาหวานกับโรคไต ถ้าลดลงได้จะประหยัดงบประมาณได้ถึง 4.4 หมื่นล้านบาท ลดความแออัดในโรงพยาบาลหมอก็จะเพียงพอ ต้องทำให้อสม.มั่นคงและการทำงานของอสม. รณรงค์การนับขาสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจแล้ว 30 ล้านคน
สรุปข่าว
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงงบประมาณของกระทรวงสาธารสุขประจำปี 2569 ว่า ขอขอบคุณสมาชิก ที่อภิปรายงบประมาณของกระทรวง โดยส่วนใหญ่สมาชิกชื่นชมและแสดงความยินดีมากกว่าตำหนิ จึงเป็นความประทับใจอย่างยิ่ง เพราะตนพยายามตั้งใจทำงานสุดความสามารถ เห็นจากสื่อที่แสดงความชื่นชมงานรัฐบาล โดยเฉพาะ 30 บาทรักษาทุกที่ วงเงินร่างงบประมาณของกระทรวงขอรับการจัดสรร 372,662.11 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กรม วงเงิน 175,286.96 ล้านบาท 6 หน่วยงานในกำกับ วงเงิน 2,352.65 ล้านบาท 3 กองทุน 195,022.50 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1.วงเงินตามนโยบายกระทรวง 242,477.51 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 8 ส่วน 1.โครงการพระราชดำริฯ 1,303 ล้านบาท 2.ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ 160,241,80 ล้านบาท 3.เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด 1,140.82 ล้านบาท 4.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ 37,792.50 ล้านบาท 5.สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน 30,418.76 ล้านบาท 6.จัดระบบบริการสุขภาพ เพื่อกลุ่มเปราะบาง และพื้นที่พิเศษ 7,606.77 ล้านบาท 7.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub 335.36 ล้านบาท 8.บริหารจัดการทรัพยากรสาธารณสุข 3,638.50 ล้านบาท 2.วงเงินอื่นๆ 130,184.60 ล้านบาท สำหรับดำเนินการตามภารกิจและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนวิพาษ์วิจารณ์ว่ากองทุนบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ มีโอกาสล้มละลายภายใน 3 ปี ถ้าหากว่า ปล่อยปละไม่จัดการบางอย่างที่มองเห็นก็น่ากลัวอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ ปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือปัญหาโรค NCDs เฉพาะปีงบประมาณ 67 ใช้เงินถึง 7.9 หมื่นล้านหรือคิดเป็น 52% ของเงิน สปสช. ถ้าจัดการ NCDs ได้ปัญหาทุกอย่างจะหมด และมั่นใจว่าใน 3 ปี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กองทุนจะล้มละลายนั้น ถ้าจัดการ NCDsอย่างทุกวันนี้งบประมาณจะเหลือเฟือ โดยมีการรณรงค์นับคาร์บจากการไหว้วาน อสม. จึงต้องมีนโยบาย อสม.มั่นคงสาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs ซึ่งเฉพาะโรคเบาหวานกับโรคไต ถ้าลดลงได้จะประหยัดงบประมาณได้ถึง 4.4 หมื่นล้านบาท ลดความแออัดในโรงพยาบาลหมอก็จะเพียงพอ ต้องทำให้อสม.มั่นคงและการทำงานของอสม. รณรงค์การนับขาสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจแล้ว 30 ล้านคน
นายสมศักดิ์ ชี้แจง กรณีคำถามศูนย์แพทย์แผนไทยจ.สุโขทัย มีเงินที่ตั้งไว้ 140 ล้านบาท ทำไมต้องเป็นสุโขทัย ในข้อเท็จริงเป็นเงินผูกพันกับศูนย์อื่นๆ ที่ดำเนินการไปแล้ว ศูนย์การแพทย์ประจำเขตแผนไทย มีเขตละ 1 ศูนย์ สร้างไป 5 เขตแล้ว สุโขทัยเป็นเขตที่ 6 และสุโขทัยมีความพร้อมเรื่องที่ดิน ส่วนไปตั้งอ.คีรีมาศ เนื่องจากเป็นเขาสมุนไพรตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ส่วนกรณีการตั้งรางวัล 60 ล้านบาท สำหรับการใช้สมุนไพรทดแทนแพทย์แผนไทย ยืนยันว่าเป็นการสนับสนุนด้านประชาสัมพันธ์ให้กับแต่ละโรงพยาบาลให้เลิกใช้ยาฝรั่ง ใช้ยาไทยใน 5 กลุ่มแทน
สำหรับคำถามระบบเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพดิจิทัล Thailand Health Atlas ใช้ได้จริงหรือไม่นั้น ยืนยันว่ามีการตั้งงบฯ 17.55 ล้านบาท อยู่ในเล่ม 11 หน้า 70 อยู่ในโครงการใหญ่ เฮลท์ดาต้าฮับ กิจกรรมรมต.พานับคาร์บใช้เงิน 1200 ล้านบาทนั้น มีกิจกรรมเสริมความรู้ประช่าชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หาเครื่องมือสนังบสนุนการทำงาน อสม.เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องชั่งน้ำหนัก การเก็บข้อมูล ส่วนคำถามเรื่องการแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์นั้น ได้แก้ปัญหาประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท และรับนศ.แพทย์ที่จบจากเอกชนและต่างประเทศ ที่แพทยสภายอมรับได้ ชุดตรวจยาเสพติดเหตุใดราคาไม่เท่านั้น ขอชี้แจงว่า อยู่ที่ซื้อมากก็ถูก ซื้อน้อยก็แพง เป็นการจัดงบประมาณปกติ ส่วน รพ.สต.ราชบุรีไม่เพียงพอนั้น กระทรวงสาธารณสุขไม่ขัดข้อง พร้อมดำเนินการให้ ขอให้มีที่ดินเรียบร้อย
“คำถามสุดท้าย มีคนเอ่ยชื่อถึงหลานผม พ่อเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมชื่อมหาคุณ เทพสุทิน เป็นเจ้าของธุรกิจร้านตำรับไทย ขอชี้แจงว่านายมหาคุณไม่มีธุรกิจร่วมกับกับกระทรวงสาธารณสุขแม้แต่บาทเดียว แต่คอยช่วยเหลือผมตั้งแต่สมัยมีโควิดเข้ามาที่เขาแนะนำผมเรื่องฟ้าทะลายโจรเป็นการแก้ปัญหา ถ้าหากไม่มีฟาวิพิราเวียก็ให้รีบสต๊อกฟ้าทะลายโจร แนะนำไปให้ผู้ต้องขัง ฉะนั้นอย่าคิดเลยว่าหาคุณจะได้ประโยชน์จากกระทรวงสาธารณสุข เปิดธุรกิจมาแล้ว 24 ปี ปัจจุบันมี 80 สาขาทั่วประเทศ ทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ตั้งแต่เป็นเด็กฝึกงานบูธนี้ เจ้าของขายให้บูธละ 70,000 บาท ขณะนี้อายุ 43 ปีมีธุรกิจตำรับไทย 80 สาขาทั่วประเทศ
จากนั้น อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นซักถามเพิ่มเติม โครงการ NCDs เห็นด้วยว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์และเป็นพื้นฐานที่ทำให้เงินงบประมาณแผ่นดินจมตรงนั้นเยอะ 1,200ล้านบาท ของกองทุนซึ่งเป็นโครงการใหม่ไม่มีรายละเอียด ทั้งหมดเป็นการนำไปอบรมสัมมนาทั้งหมดเลยหรือไม่
นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า วงเงิน 1200 ถ้าดูจาก NCDs ไม่เพียงพอ NCDs แค่ 2 โรค ก็ 4.4 หมื่นล้าน จะต้องดำเนินการNCDs ยังมีโรคอื่นตามมาอีกมากมาย ฝึกอบรมแต่ละครั้ง แต่ละเขตเครื่องมือที่เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล NCDs สมาคมโลกบอกว่าเรื่องเหล่านี้ who ยังไม่สามารถดำเนินการได้แต่ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ หากข้อมูลไม่เพียงจะมาตอบเพิ่มเติมหรือขอส่งเอกสารเพิ่มเติมให้