
เวลา 12.40 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สถานการณ์พื้นที่ไทย – กัมพูชา จากท่าทีของการลดกำลังของทั้งสองประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการสื่อสารคล้ายกันในหลายอย่าง การที่จะกล่าวว่าถอยของทั้งสองฝ่าย ไม่อยากจะใช้คำดังกล่าว ขอใช้คำว่า ปรับกำลัง ซึ่งจากการที่ได้มีการร่วมเจรจาพูดคุยกันของทั้งสองประเทศ ได้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย เพราะจะเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝ่ายไม่ใช่แค่ประเทศกัมพูชาอย่างเดียวแต่รวมถึงประเทศไทยด้วย
จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือประเทศไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเช่นกันไม่ว่าในกรณีถ้ามีการปะทะ ในรูปแบบใด ๆ เราต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนอย่างที่ได้เคยกล่าวไว้
สรุปข่าว
เวลา 12.40 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สถานการณ์พื้นที่ไทย – กัมพูชา จากท่าทีของการลดกำลังของทั้งสองประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการสื่อสารคล้ายกันในหลายอย่าง การที่จะกล่าวว่าถอยของทั้งสองฝ่าย ไม่อยากจะใช้คำดังกล่าว ขอใช้คำว่า ปรับกำลัง ซึ่งจากการที่ได้มีการร่วมเจรจาพูดคุยกันของทั้งสองประเทศ ได้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย เพราะจะเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝ่ายไม่ใช่แค่ประเทศกัมพูชาอย่างเดียวแต่รวมถึงประเทศไทยด้วย
จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือประเทศไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเช่นกันไม่ว่าในกรณีถ้ามีการปะทะ ในรูปแบบใด ๆ เราต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนอย่างที่ได้เคยกล่าวไว้
ในส่วนของกรณีการบุกยื่นหนังสือต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวตนเองได้รับทราบแล้วแต่ยังไม่เห็นหนังสือในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามทุกความคิดเห็น รัฐบาลพร้อมที่จะรับฟัง ซึ่งสิ่งที่เราได้ดำเนินการทำอยู่นั้นทุกหน่วยงานอย่าง กองทัพก็ได้มีการวางกำลังและหน่วยในการดูแลอยู่แล้ว
ในประเด็นของเรื่องการที่ประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกและประเด็นการยกเลิก MOU 43 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องดังกล่าวขอสื่อสารว่า ประเทศไทยขอพิจารณาเป็นเรื่องต่อเรื่องเหมือนที่ได้ยืนยันกับทางด้านประเทศกัมพูชาว่า ขอมุ่งเน้นที่เรื่องขอพิพาทในส่วนดังกล่าว ไม่ใช่เอาทุกเรื่องมาปนเข้าด้วยกันไม่อย่างงั้นแล้วจะเกิดความไม่ชัดเจนในแต่ละหัวข้อ แต่แน่นอนว่าเรื่องที่มีปัญหาหรือยังไม่ชัดเจนรัฐบาลและฝ่ายบริหารจะต้องพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
พร้อมกับกล่าวย้ำว่า รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาทีละปัญหา ทั้งนี้ ในเรื่องของประเด็นข้อพิพาทดังกล่าว รัฐบาลพูดคุยด้วยความจริงใจ และเราไม่ต้องการเห็นคนทั้งสองประเทศมีปัญหากัน ต้องการขับเคลื่อนประเด็นทางเศรษฐกิจมากกว่าที่จะให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสนามรบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานการณ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น! ยืนยันไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก
- กัมพูชา ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย
- กัมพูชา จำกัดพลเมืองไทยเข้าประเทศเหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 60 วัน
- รบ.ย้ำ ไม่มีเรียกกำลังพลสำรอง กองทัพไม่มีนโยบายติดต่อ ปชช.ผ่านโทรศัพท์หรือไลน์
- กต. เรียกร้องกัมพูชาใช้กลไกทวิภาคีลดความตึงเครียดชายแดน
- กองทัพบก ชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา
- สถานการณ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น! ยืนยันไทยไม่รับเขตอำนาจศาลโลก
- หลุบหลบภัย 40 ปี VS เขี้ยวเล็บใหม่กัมพูชา ชาวบ้านแนวชายแดนปลอดภัยแค่ไหน?
- นายกฯ เปิดงาน OTOP MIDYEAR 2025 หนุนเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับสินค้าชุมชนสู่สากล
- สถานการณ์ไทย-กัมพูชา กต. เผยแต่ยังเปราะบาง เล็งตัดไฟ-อินเทอร์เน็ตพื้นที่กาสิโน
- แรงงานกัมพูชาในไทย: ไทยพึ่งพาแค่ไหน? ใครเสียหายหากต้องกลับประเทศ?
- กัมพูชา ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย
- เปิดด่านช่องจอมล่าช้า ฝั่งกัมพูชารอคำสั่ง นักเรียน - คนป่วย รอข้ามแดน
