
ไทยภักดีจดประชุมใหญ่ วางทิศทางพรรคและนโยบายเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พรรคไทยภักดีจัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 โดยมีวาระการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมแถลงนโยบายสำคัญหลายด้านเพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนพรรคในอนาคต
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวต่อสมาชิกพรรคว่า พรรคยังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการตอบรับจากโพลล์ และการจัดอันดับเงินอุดหนุนจากภาครัฐที่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ชูนโยบายปราบโกง-ให้ประชาชนมีอำนาจต่อเนื่อง
นโยบายเร่งด่วนของพรรคไทยภักดี คือการแก้ไขปัญหาทุจริต ซึ่งพรรคมองว่าเป็นรากของปัญหาหลายด้านในประเทศ โดยเสนอให้ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เช่น สิทธิในการฟ้องร้องนักการเมืองที่กระทำผิด และเสนอให้มีบทลงโทษชัดเจนกับนักการเมืองที่กระทำการทุจริต โดยเฉพาะกรณีที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านบาท
สรุปข่าว
ไทยภักดีจดประชุมใหญ่ วางทิศทางพรรคและนโยบายเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พรรคไทยภักดีจัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 โดยมีวาระการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมแถลงนโยบายสำคัญหลายด้านเพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนพรรคในอนาคต
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวต่อสมาชิกพรรคว่า พรรคยังคงเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการตอบรับจากโพลล์ และการจัดอันดับเงินอุดหนุนจากภาครัฐที่ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
ชูนโยบายปราบโกง-ให้ประชาชนมีอำนาจต่อเนื่อง
นโยบายเร่งด่วนของพรรคไทยภักดี คือการแก้ไขปัญหาทุจริต ซึ่งพรรคมองว่าเป็นรากของปัญหาหลายด้านในประเทศ โดยเสนอให้ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เช่น สิทธิในการฟ้องร้องนักการเมืองที่กระทำผิด และเสนอให้มีบทลงโทษชัดเจนกับนักการเมืองที่กระทำการทุจริต โดยเฉพาะกรณีที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านบาท
แนวคิดปฏิรูปกองทัพและตำรวจ
ในด้านความมั่นคง พรรคเสนอให้มีการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพ เช่น ปรับลดจำนวนตำแหน่งนายพลให้เหมาะสม และนำงบประมาณไปเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับรูปแบบสงครามสมัยใหม่ ขณะเดียวกันยังเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างตำรวจ โดยเฉพาะการกระจายอำนาจให้กับจังหวัด เพื่อให้การดูแลประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เสนอโมเดลใหม่ของวุฒิสภา “ส.ว.ราชประชาสมาสัย”
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือ ข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดตั้ง “ส.ว.ราชประชาสมาสัย” โดยพรรคเสนอว่า ให้สภาองคมนตรีคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม แล้วให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกโดยตรง เพื่อให้วุฒิสภามีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง และลดข้อครหาจากระบบเดิม
แนวนโยบายด้านการศึกษา การเกษตร และพลังงาน
พรรคยังเตรียมเสนอนโยบายด้านอื่น ๆ ได้แก่
- การปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาเพื่อลดความซ้ำซ้อน
- การเพิ่มขนาดโรงเรียนให้มีคุณภาพสูงขึ้น
- การกำหนดราคาข้าวเปลือกตามราคาขายในประเทศ
- การเปิดเสรีด้านพลังงาน เพื่อให้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 3 บาทต่อหน่วย
พรรคย้ำจุดยืนไม่ยอมให้การทุจริตฝังราก
ดร.กรรญดา ณ หนองคาย หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวปิดท้ายว่า พรรคยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ และย้ำว่าหากประชาชนยังศรัทธา ประเทศไทยยังมีวันใหม่ได้เสมอ พรรคจะเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเรียกร้องความถูกต้องกลับคืนมา
