ชูศักดิ์ยัน รัฐบาลจริงใจแก้รัฐธรรมนูญ แต่รอคำวินิจฉัยศาลฯก่อน

ชูศักดิ์ยัน รัฐบาลจริงใจแก้รัฐธรรมนูญ แต่รอคำวินิจฉัยศาลฯก่อน

รัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขอรอความชัดเจนจากศาล

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งยื่นโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับความชัดเจนในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพื่อไม่ให้กระบวนการสะดุดกลางทาง

เขาอธิบายว่า เหตุที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนในประเด็นจำนวนครั้งของการทำประชามติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาพยานผู้เชี่ยวชาญของศาลรัฐธรรมนูญ หากเร่งเสนอร่างโดยไม่รอคำตอบ อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล หากต้องยุติกระบวนการกลางคัน

สรุปข่าว

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ยืนยันรัฐบาลมีเจตนาแก้รัฐธรรมนูญ 2560 อย่างแท้จริง แต่ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องประชามติก่อน เพื่อไม่ให้กระบวนการสะดุด พร้อมเสนอวางกรอบตั้ง ส.ส.ร. ล่วงหน้า

รัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขอรอความชัดเจนจากศาล

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งยื่นโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับความชัดเจนในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพื่อไม่ให้กระบวนการสะดุดกลางทาง

เขาอธิบายว่า เหตุที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนในประเด็นจำนวนครั้งของการทำประชามติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาพยานผู้เชี่ยวชาญของศาลรัฐธรรมนูญ หากเร่งเสนอร่างโดยไม่รอคำตอบ อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล หากต้องยุติกระบวนการกลางคัน

กังวลกระบวนการติดขัด แม้พรรคการเมืองยื่นร่างแล้ว

นายชูศักดิ์กล่าวว่า แม้ขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าสู่ระเบียบวาระรัฐสภาแล้ว 2 ฉบับ แต่รัฐบาลเองยังไม่ยื่น เนื่องจากเกรงว่าหากต้องทำประชามติหลายครั้ง เช่น 2-3 ครั้ง อาจใช้งบประมาณมหาศาลราว 3,000 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

เขายังย้ำว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันมีข้อจำกัดที่ทำให้การแก้ไขทำได้ยาก โดยเฉพาะวาระแรกที่ต้องใช้เสียงเห็นชอบจากวุฒิสมาชิก (ส.ว.) อย่างน้อยหนึ่งในสาม หรือราว 67 คน จากจำนวน 200 คน ซึ่งอาจทำให้ร่างตกไปตั้งแต่ต้น

เสนอวางกรอบตั้ง ส.ส.ร. แม้รู้ว่าอาจไม่สำเร็จในรัฐบาลชุดนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า แม้รัฐบาลชุดนี้จะเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปี หากนับจากกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และการเพิ่มหมวด 15/1 แล้ว ต้องใช้เวลาราว 6 เดือน ตามด้วยการทำประชามติอีก 3-5 เดือน และการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อีก 6 เดือน ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจเกินกรอบวาระของรัฐบาล

“ผมไม่อยากให้การแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลวเหมือนในอดีต ที่ผ่านวาระสามแล้วแต่มีคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญจนสะดุด ดังนั้นหากสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ควรตั้ง ส.ส.ร. ไว้ก่อน แม้จะไม่เสร็จในรัฐบาลนี้ ก็ยังดีกว่าไม่มีความคืบหน้าเลย” นายชูศักดิ์กล่าว

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : ชูศักดิ์ ศิรินิล

บรรณาธิการออนไลน์