โฆษก กต. แถลง คณะทูตขอบคุณไทยจัดลงพื้นที่ด้วยความจริงใจ โปร่งใส

โฆษก กต. แถลง คณะทูตขอบคุณไทยจัดลงพื้นที่ด้วยความจริงใจ โปร่งใส

ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา - Team Thailand แถลงข่าว ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ร่วมรับฟังประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 

โดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้  

1.ตั้งใจให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รับทราบของสาธารณชนอย่างกว้างขวางที่สุด โดยทั้งสื่อไทยและต่างชาติ จะเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ

2.นำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่เพื่อประเมินผลและสังเกตการณ์การปะทะแนวชายแดนเพื่อให้ได้เห็นกับตา

3. การลงพื้นที่ครั้งนี้ฝ่ายไทยต้องการเน้นประสิทธิภาพของการสื่อสารที่สะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสื่อสารต่อชาวโลกถึงความเสียหาย ที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นและโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หลักการสิทธิมนุษยชน อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ทำให้ประชาชนต้องอพยพไปศูนย์พักพิงกว่า 1.5 แสนคน

สรุปข่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย การลงพื้นที่ของฝ่ายไทยเน้นความโปร่งใส คณะทูตขอบคุณไทยที่จัดการลงพื้นที่ด้วยความจริงใจ ย้ำประเทศไทยดำเนินการทุกอย่างในกรอบกติกา ยึดหมั่นในหลักการและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา - Team Thailand แถลงข่าว ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ร่วมรับฟังประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 

โดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้  

1.ตั้งใจให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รับทราบของสาธารณชนอย่างกว้างขวางที่สุด โดยทั้งสื่อไทยและต่างชาติ จะเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ

2.นำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่เพื่อประเมินผลและสังเกตการณ์การปะทะแนวชายแดนเพื่อให้ได้เห็นกับตา

3. การลงพื้นที่ครั้งนี้ฝ่ายไทยต้องการเน้นประสิทธิภาพของการสื่อสารที่สะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อสื่อสารต่อชาวโลกถึงความเสียหาย ที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นและโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หลักการสิทธิมนุษยชน อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ทำให้ประชาชนต้องอพยพไปศูนย์พักพิงกว่า 1.5 แสนคน

นายนิกรเดช กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ให้ได้เห็นความโปร่งใสของผู้จัดและข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของคณะ การลงพื้นที่ของฝ่ายไทยคำนึงถึงความโปร่งใส ซึ่งในการลงพื้นที่สื่อมวลชนสามารถถ่ายทอดสดได้ทุกเวลา และคณะทูตสามารถพูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบได้โดยตรง เห็นความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานและผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะด้านจิตใจที่ประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านตัวเอง 

นอกจากนี้ คณะทูตต่างแสดงความขอบคุณไทยที่จัดการลงพื้นที่ด้วยความจริงใจ โปร่งใส สุดท้ายนี้ขอย้ำว่าประเทศไทยดำเนินการทุกอย่างในกรอบกติกาเรายึดหมั่นในหลักการและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เชื่อมั่นว่า ความจริงจะชนะทุกอย่าง


ที่มาข้อมูล : ศบ.ทก.

ที่มารูปภาพ : ศบ.ทก.