
12 กันยายน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ความไม่สงบในเนปาล เหตุการณ์ในกาตาร์ และการคุ้มครองดูแลคนไทยของสถานเอกอัครราชทูตไทย ว่า สถานการณ์ที่เนปาลเกิดจากระดับความไม่พอใจของประชาชน โดยเฉพาะภายหลังมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล นำไปสู่การชุมนุมประท้วงต่อต้านโดยกลุ่มเยาวชน GEN Z ที่ส่งผลให้ทางการเนปาล บังคับใช้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จนเกิดความเสียหาย เสียชีวิต และทำให้นายกรัฐมนตรีเนปาลลาออกจากตำแหน่ง จนมีคำสั่งห้ามออกจากเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว
สรุปข่าว
12 กันยายน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ความไม่สงบในเนปาล เหตุการณ์ในกาตาร์ และการคุ้มครองดูแลคนไทยของสถานเอกอัครราชทูตไทย ว่า สถานการณ์ที่เนปาลเกิดจากระดับความไม่พอใจของประชาชน โดยเฉพาะภายหลังมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล นำไปสู่การชุมนุมประท้วงต่อต้านโดยกลุ่มเยาวชน GEN Z ที่ส่งผลให้ทางการเนปาล บังคับใช้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จนเกิดความเสียหาย เสียชีวิต และทำให้นายกรัฐมนตรีเนปาลลาออกจากตำแหน่ง จนมีคำสั่งห้ามออกจากเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประกาศเตือนประชาชนคนไทยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการที่มีประกาศเคอร์ฟิว ทำให้สถานทูตต้องปิดทำการ โดยเจ้าหน้าที่และข้าราชการต้องปฎิบัติงานที่บ้าน แต่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังมีการยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิว
ขณะนี้มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในเนปาล ทั้งพำนักอยู่ชั่วคราวและถาวรประมาณ 100 คน ทุกคนยังดีปลอดภัยดี และสถานทูต ได้ติดต่อกับกลุ่มคนไทยเหล่านี้อยู่อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ สนามบินนานาชาติ ตรีภูวัน ก็กลับมาเปิดทำการตามปกติ และสายการบินต่างๆ กลับมาให้บริการแล้ว ขอให้คนไทยที่มีกำหนดเดินทางติดต่อสายการบินเพื่อตรวจสอบและยืนยันเที่ยวบินก่อนการเดินทาง
- เนปาลยืดเคอร์ฟิว ทหารสลายการชุมนุม ผู้ประท้วงเตรียมพบผู้นำใหม่
- ผู้ประท้วงเนปาลเสนอชื่อ "อดีตประธานศาลฎีกาหญิง" นั่งนายกฯ เฉพาะกาล
- “เนปาลลุกเป็นไฟ” เมื่อความอวดรวยกลุ่มทายาทนักการเมือง ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ จุดไฟโกรธประชาชน
- สถานทูตฯ เตือนคนไทยในเนปาล อยู่ในที่ปลอดภัย-กองทัพประกาศเคอร์ฟิว
- สหประชาชาติประณามประท้วงรุนแรงในเนปาล เรียกร้องเข้าสู่โต๊ะเจรจา
