“ดร.ณัฏฐ์” ชี้หลักกฎหมายชัด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้เฉพาะประเด็นเกี่ยวเนื่องคำร้อง

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้หลักกฎหมายชัด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้เฉพาะประเด็นเกี่ยวเนื่องคำร้อง


“ดร.ณัฏฐ์” ขยายความหลัก Ultra Petita กำหนดขอบเขตศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ 19 ตุลาคม 2568 สืบเนื่องจากกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แถลงต่อสาธารณะถึงขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า “คำวินิจฉัยต้องไม่เกินคำขอ” ในประเด็นคำวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้โดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงในวงวิชาการและสังคม


ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ให้ความเห็นว่า หลัก “วินิจฉัยไม่เกินคำขอ” หรือ Ultra Petita เป็นหลักสากลที่ใช้ในระบบกฎหมายทั่วโลก เพื่อป้องกันไม่ให้ศาลตัดสินเกินขอบเขตของคำร้อง และเพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม


ในคดีอาญาและคดีแพ่ง ศาลไม่มีสิทธิตัดสินเกินคำขอ เช่น คดีอาญา หากอัยการขอให้จำคุกในระดับหนึ่ง ศาลไม่สามารถพิพากษาเกินโทษที่ร้องขอ ส่วนคดีแพ่งก็ห้ามพิพากษาเกินคำขอ เว้นแต่ในกรณีที่มี “ประเด็นเกี่ยวเนื่องจำเป็น” เพื่อให้คำวินิจฉัยครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักยุติธรรม


สำหรับ คดีรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นคดีการเมือง มีลักษณะเฉพาะที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก จึงสามารถวินิจฉัยใน “ประเด็นเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับคำร้อง” เพื่อให้คำวินิจฉัยสมบูรณ์และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ


ดร.ณัฏฐ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้เขียนคำว่า “ห้ามวินิจฉัยเกินคำขอ” ไว้อย่างชัดเจน แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 74 ได้กำหนดให้ศาลมีอำนาจกำหนดคำบังคับหรือมาตรการตามความจำเป็น เพื่อให้คำวินิจฉัยเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพและความเป็นธรรม


ในส่วนของคำวินิจฉัยที่ 18/2568 ซึ่งระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง” ดร.ณัฏฐ์ชี้ว่า เป็นการวินิจฉัยที่อยู่ในขอบเขตของคำร้อง เพราะเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามมาตรา 210 (2) ของรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่


การวินิจฉัยในลักษณะนี้ถือเป็นการขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องจำเป็น เพื่อให้คำวินิจฉัยสมบูรณ์และครบถ้วนตามหลักกฎหมายมหาชน และเพื่อให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักการของกฎหมายสูงสุดของประเทศ

สรุปข่าว

ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม ชี้หลัก Ultra Petita เป็นหัวใจสำคัญของการตีความทางกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับคำร้อง เพื่อให้คำวินิจฉัยสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ไม่ถือเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตตามอำเภอใจ


“ดร.ณัฏฐ์” ขยายความหลัก Ultra Petita กำหนดขอบเขตศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ 19 ตุลาคม 2568 สืบเนื่องจากกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แถลงต่อสาธารณะถึงขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า “คำวินิจฉัยต้องไม่เกินคำขอ” ในประเด็นคำวินิจฉัยว่ารัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้โดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงในวงวิชาการและสังคม


ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ให้ความเห็นว่า หลัก “วินิจฉัยไม่เกินคำขอ” หรือ Ultra Petita เป็นหลักสากลที่ใช้ในระบบกฎหมายทั่วโลก เพื่อป้องกันไม่ให้ศาลตัดสินเกินขอบเขตของคำร้อง และเพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม


ในคดีอาญาและคดีแพ่ง ศาลไม่มีสิทธิตัดสินเกินคำขอ เช่น คดีอาญา หากอัยการขอให้จำคุกในระดับหนึ่ง ศาลไม่สามารถพิพากษาเกินโทษที่ร้องขอ ส่วนคดีแพ่งก็ห้ามพิพากษาเกินคำขอ เว้นแต่ในกรณีที่มี “ประเด็นเกี่ยวเนื่องจำเป็น” เพื่อให้คำวินิจฉัยครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักยุติธรรม


สำหรับ คดีรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นคดีการเมือง มีลักษณะเฉพาะที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก จึงสามารถวินิจฉัยใน “ประเด็นเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับคำร้อง” เพื่อให้คำวินิจฉัยสมบูรณ์และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ


ดร.ณัฏฐ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้เขียนคำว่า “ห้ามวินิจฉัยเกินคำขอ” ไว้อย่างชัดเจน แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 74 ได้กำหนดให้ศาลมีอำนาจกำหนดคำบังคับหรือมาตรการตามความจำเป็น เพื่อให้คำวินิจฉัยเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพและความเป็นธรรม


ในส่วนของคำวินิจฉัยที่ 18/2568 ซึ่งระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง” ดร.ณัฏฐ์ชี้ว่า เป็นการวินิจฉัยที่อยู่ในขอบเขตของคำร้อง เพราะเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามมาตรา 210 (2) ของรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่


การวินิจฉัยในลักษณะนี้ถือเป็นการขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวเนื่องจำเป็น เพื่อให้คำวินิจฉัยสมบูรณ์และครบถ้วนตามหลักกฎหมายมหาชน และเพื่อให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักการของกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN