จับตา! ศาลรธน.ชี้ชะตา สมาชิกภาพ 64 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ

วันนี้ (28 ต.ค.63) ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. รวม  64 คน โดยในจำนวนนี้มีทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายละ 32 คน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณาเรื่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส. จำนวน 64 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ และศาลอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนและกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันนี้ 2 ช่วงเวลา คือ 15.00 น. และ 16.00 น.

ด้านพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคดี ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ถือหุ้นสื่อ ซึ่งในจำนวนนี้มี ส.ส.ที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ 2 คนคือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการทรวงแรงงาน และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าเป็นอำนาจของศาลที่จะวินิจฉัยไม่ขอก้าวล่วงและเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณาและตัดสิน

ขณะที่นายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี ในฐานะหัวหน้าต่อสู้คดีถือหุ้นสื่อจากพรรคพลังประชารัฐ และรับหน้าที่เป็นทนายความให้กับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ทั้ง 32 คน ย้ำว่า ส.ส.ทั้ง 32 คน ของฝ่ายรัฐบาลที่โดนคดี ไม่มีใครมีการขอใบอนุญาต ประกอบกิจการสื่อ หรือ ถือหุ้น 

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีนี้ ยืนยันเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะออกมาในทางใด ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญให้โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยตนได้นำเสนอเอกสารพยานหลักฐานครบถ้วน ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นชัดแจ้งว่าไม่เคยขออนุญาตจดทะเบียนทำสื่อใด รวมถึงสินทรัพย์ บัญชีรายรับ รายจ่าย ไม่มีสินทรัพย์ใดที่เกี่ยวกับกิจการสื่อ จึงมั่นใจในคุณสมบัติของ ส.ส.ของพรรคว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ซึ่งท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลเป็นอย่างไรพร้อมยอมรับในกระบวนการยุติธรรม

เกาะติดข่าวที่นี่