
สรุปข่าว
วันนี้(24พ.ย.63)นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ขอถอนเรื่องการพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กลับไปทบทวน หลังจากจากกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยิบยกผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง ลงวันที่ 10 พ.ย.2563 ขึ้นมาคัดค้าน ว่า เป็นการทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบทางธุรกิจโครงการขนาดใหญ่ประเภทนี้ต้องวางแผนการลงทุนระยะยาว แต่ผู้กระทบโดยตรงอย่างแท้จริงคือผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ขาดโอกาสที่จะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง
สำหรับนายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นผู้ยื่นคำร้องเรียนและสอบถามต่อคณะรัฐมนตรี กรณีคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 เห็นชอบเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR)หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยเขาบอกว่า ที่ร้องเรียนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพราะชัดเจนว่ามีพฤติกรรมในการเอื้อเอกชนบางราย ซึ่งขัดแนวทางการประมูลงานในอดีต และเมื่อศาลปกครอง สั่งคุ้มครองให้กลับไปใช้แนวทางการประมูลเดิม จึงถือว่าถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม
การที่รัฐบาลยกเหตุไม่ให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว
ส่วนตัวมองว่า ผู้เสียหายที่สุดคือประชาชน
เพราะบีทีเอส มีสัญญาอีกนับ
10 ปี
กว่าจะครบสัญญาสัมปทาน
ยังมีรัฐบาลอีกหลายรัฐบาล
แต่หากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ
โดยเร็ว
จะทำให้ผู้ประกอบการมีความสั่นใจว่าจะไม่หยุดยั้งการพัฒนาการให้บริหารเพื่อประโยชน์ผู้โดยสาร
ในทางตรงกันข้าม
ถ้าไม่เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ
ผู้ประกอบการก็มีเหตุผลที่ไม่กล้าลงทุนในระยะยาว
เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ไปต่อหรือไม่
นอกจากนี้
บีทีเอส คือผู้ลงทุนโครงการแต่ต้น
ย่อมรู้เทคนิควิธีการเดินรถอย่างช่ำชองแล้ว
แต่การชักเข้าชักออก
คนที่กระทำการอย่างนี้เท่ากับไม่ได้ยึดถือประชาชนเป็นที่ตั้ง
แต่เวลาหาเสียงกลับบอกว่าตัวเองยึดถือประชาชนเป็นที่ตั้ง
ดังนั้น
การเร่งรีบให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
จึงเอื้อประชาชน ไม่ใช่เอกชน
นายศรีสุวรรณ
กล่าวว่า อยากให้สังคมจับตาว่า
โครงการที่ให้บริการสาธารณะไม่ใช่ผปลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง
แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส
จึงอยากให้ประชาชนส่งเสียง
เพื่อที่นักการเมืองจะเกิดความยำเกรงเสียงประชาชนบ้าง
อนึ่ง
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
17 พ.ย.63
กระทรวงคมนาคม
หยิบยกผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง
ลงวันที่ 10 พ.ย.
63 ขึ้นมาคัดค้าน
ทั้งที่การประชุม ครม.
13 ส.ค.
63 เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
มิได้มีท่าทีคัดค้านร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว
แต่อย่างใด
โดยเมื่อวันที่
30 มิ.ย.
63 กระทรวงคมนาคม
เป็นฝ่ายเสนอผลการพิจารณาศึกษา
เหตุผลและความจำเป็น
เรื่องการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส
ของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า
(บีทีเอส)
สภาผู้แทนราษฎร
เข้าสู่ที่ประชุมครม.ให้มีมติรับทราบ

จากการตรวจสอบพบว่า
เรื่องนี้มีการประชุมหา
จนได้ข้อสรุปจากทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง
ตามเอกสารกระทรวงการคลัง
วันที่ 16 พ.ย.63
ว่า
กระทรวงมหาดไทย
ได้ดำเนินการมาตามลำดับขั้นตอน
และกระทรวงคมนาคม
ในฐานะที่เป็นหน่วยงานนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา
เห็นชอบโครงการนี้มาตั้งแต่แรก
แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง
รมว.คลัง
จากนายปรีดี ดาวฉาย เป็นนายอาคม
เติมพิทยาไพสิฐ สำนักเลขาธิการครม.
จึงต้องขอความเห็นจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
ตามมติครม. 13 ส.ค.
63 และกระทรวงการคลัง
ยังคงยืนยันให้ความเห็นชอบตามเดิม
จากที่ทุกหน่วยงานเคยลงมติรับทราบผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ
ในโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว
มาก่อนหน้า โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม
ที่ร่วมให้ความเห็นตั้งแต่วันที่
4 มิ.ย.63
และที่ประชุมครม.
วันที่
13 ส.ค.63
เคยรับทราบผลการพิจารณาตามรายงานสรุปของกระทรวงมหาดไทย
ไปแล้ว
ดังนั้น
ตามไทม์ไลน์แล้วเห็นได้ชัดว่า
โครงการขยายสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ให้กับ "บีทีเอส
กรุ๊ป โฮลดิ้งส์"
ได้ผ่านความเห็นชอบของทุกหน่วยงานแล้ว
จึงมีการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การขอมติที่ประชุมครม.เพื่ออนุมัติ
ในวันที่ 17 พ.ย.
63 แต่กระทรวงคมนาคม
โดยนายศักดิ์สยาม
ได้นำผลการศึกษาของกรมขนส่งทางราง
ขึ้นมาคัดค้าน
โดยไม่สนใจแนวทางเดิมจากการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
มาตั้งแต่แรก
อะไรเป็นตัวแปรทำให้หลักคิดของนายศักดิ์สยาม
เปลี่ยนไป
สำหรับ
"บีทีเอส"
นั้น
มีปัญหากับ กระทรวงคมนาคม
ถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง
ขอความเป็นธรรม กรณี รฟม.
แก้ไขเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประมูลสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม
จนถูกตั้งคำถามว่า
เป็นไปเพื่อเอื้อให้กับ
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ
จำกัด หรือ BEM หรือไม่
จากนี้ไป
จึงต้องจับตาว่า ท้ายสุด
พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
จะตัดสินใจประเด็นนี้อย่างไร
เพราะในคราวการประชุมครม.
วันที่
13 ส.ค.63
มีการหารือในประเด็นเดียวกันนี้อีกครั้ง
เป็นที่มาหนังสือด่วนกระทรวงการคลัง
ที่ กค 0820.1/20037
ยืนยันความเห็นชอบ
ปรากฎข้อความสำคัญ ว่า
"กระทรวงการคลังให้ความเห็นตามเดิม
เหมือนที่กระทรวงคมนาคม
เคยเสนอผลการพิจารณารายงานผลการศึกษาฯ
ตามหนังสือกระทรวงคมนาคม
ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร)
0202/192 ลงวันที่
4 มิ.ย.2563
ให้ที่ประชุมครม.รับทราบไปแล้ว
ดังนั้น
ความตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์
ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าคสช.
ในประกาศแนวนโยบายเรื่องการเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
เพื่อคุณภาพชีวิตคนกรุงให้มีความสมบูรณ์แบบ
จะเกิดขึ่นได้หรือนั้น
อยู่ที่จะมีมติให้ความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว
กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ช้าหรือเร็ว
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE
- ได้เป็นคุณพ่อแล้ว! "ศรีสุวรรณ" ปลื้มภรรยาคลอดลูกสาวคนแรก
- “ศรีสุวรรณ”จี้ ดีเอสไอ สอบเอาผิด รฟม. เปลี่ยน TOR รถไฟฟ้าสีส้ม
- ชาวยโสธร! ค้านตัดต้นยางนา 100 ปี ขยายถนนแจ้งสนิท
- 'ศรีสุวรรณ' ลั่นปี 63 ลุยตรวจสอบนักการเมือง 'ชังชาติ-พังชาติ'
- มาตามนัด! 'ศรีสุวรรณร้' ร้องกกต.เอาผิด 'ธนาธร-อนาคตใหม่'
- มาตามนัด! 'ศรีสุวรรณ'ร้องกกต.เร่งส่งฟ้องอาญา 'ธนาธร'
- 'ศรีสุวรรณ' จ่อร้องกกต.เร่งส่งฟ้องคดีอาญา 'ธนาธร'
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand