สรุปข่าว
เข้าสู่ช่วงเวลาของการปิดภาคเรียนของเด็ก ๆ ทั้งหลายกันอีกแล้ว แน่นอนว่ารอบนี้มีเวลาในการเรียนรู้และเล่นสนุก รวมถึงท่องเที่ยวนอกห้องเรียนกันแบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว วันนี้เราจึงขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวปิดเทอมน่าไปซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง แล้วจะน่าสนุกตื่นเต้นขนาดไหน ตามไปดูกันเลย
1. สวนนงนุช พัทยา
สวนนงนุช พัทยา เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวช่วงปิดเทอมที่เราขอแนะนำกันเป็นที่แรก ที่นี่มีสวนสวยชื่อดังระดับโลก ตั้งอยู่ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายในจะมีสวนต่างๆ มากมาย ทั้งสวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนกล้วยไม้ สวนกระบองเพชร และสวนพฤกษชาติอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีหุบเขาไดโนเสาร์ ที่ได้เนรมิตพื้นที่กว่า 25 ไร่เพื่อพานักท่องเที่ยวข้ามมิติย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน โดยมีทั้งไดโนเสาร์พันธุ์ทีเร็กซ์,ไทรเซอราทอปส์,แร็ปเปอร์,ไทแรนโนซอรัส และอีกมากมาย ที่คอยต้อนรับน้อง ๆ และนักท่องเที่ยวทั้งหลาย
ที่มาภาพ : สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
สวนนงนุช พัทยา
ที่อยู่ : 34/1 7 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด - ปิด : 08.00-18.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 0-3870-9358-62 , 0-2251-2161, 0-2252-1786
เว็บไซต์ : สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
2. RubberLand พัทยา ชลบุรี
อีกหนึ่งที่เที่ยวช่วงปิดเทอมที่พลาดไม่ได้กับ RubberLand (รับเบอร์แลนด์) ที่เนรมิตดินแดนแห่งยางพาราบนเนื้อที่กว่า 4,400 ตารางเมตร แห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชีย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้รู้จักกับต้นยางและน้ำยางดิบที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม และภูมิปัญญาของคนไทย โดยแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ถึง 4 โซน คือ
- โซนป่ายาง จำลองสวนยางแนวแฟนตาซี และนำเสนอแบบสามมิติเสมือนจริง
- โซนแปรรูปยาง ชมโรงงานผลิตยางพาราในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- โซนยางกับชีวิตประจำวัน นำเสนอเสมือนจริงด้วยการแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ที่มียางพาราเป็นวัตถุดิบหลัก ตลอดจนของใช้ในชีวิตประจำวันที่ทำมาจากยางพารา
- โซนมหัศจรรย์ยางพารา ร่วมผจญภัยในโลกแห่งจินตนาการ ภายใต้แนวคิด “ถ้าโลกนี้มีแต่ยาง” จะเป็นอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร ถ้าทุกอย่างเป็นยาง 100%
ที่มาภาพ : RubberLand "รับเบอร์แลนด์"
RubberLand พัทยา
ที่ตั้ง : อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : RubberLand "รับเบอร์แลนด์"
3. Kidzania กรุงเทพฯ
Kidzania เป็นศูนย์การเรียนรู้และความบันเทิงสุดครีเอตสำหรับเด็กอายุ 4 – 14ปี ที่ได้มีการย่อส่วนโลกทั้งใบให้มาเป็นเมืองจำลองแห่งการเรียนรู้เสมือนจริง โดยให้น้อง ๆ เลือกสวมบทบาททำอาชีพในฝันกว่า 80 อาชีพ อาทิ กัปตันขับเครื่องบิน,คุณหมอ,ผู้พิพากษา,ดารา,นักธุรกิจ,เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรืออาชีพเด็กปั๊ม และอาชีพอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งน้อง ๆ จะได้เปิดประสบการณ์และทักษะอันหลากหลายผ่านการเล่นอย่างสนุกสนาน แถมยังปลูกฝังความคิดเรื่องการแบ่งปัน การอยู่ร่วมกันในสังคม รวมถึงการรู้คุณค่าของเงินอีกด้วย
ที่มาภาพ : siamparagon
Kidzania
ที่อยู่ : ชั้น 5, Siam Paragon
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.30 – 20.30 น.
4. สยามอะเมซิงพาร์ค หรือ Siampark City กรุงเทพฯ
สยามอะเมซิงพาร์ค หรือ สยามปาร์ค ซิตี้ สวนสนุกและสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยมีสวนน้ำและเครื่องเล่นมากมายหลายอย่างไว้คอยบริการ ซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ปิดเทอมนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ
ที่มาภาพ : Siam Amazing Park สยามอะเมซิ่งพาร์ค
สวนสยาม หรือ Siampark City กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ถนน สวนสยาม แขวง คันนายาว เขต คันนายาว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
เว็บไซต์ : Siam Amazing Park สยามอะเมซิ่งพาร์ค
5. ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ
อีกหนึ่งที่เที่ยวปิดเทอมที่ได้ทั้งความสนุกและความรู้ ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ หรือ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อ เป็นแหล่งเรียนรู้ หลากหลายรูปแบบด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมี 2 ส่วนที่ให้เข้าชมคือ คือ ห้องฉายดาว และ ส่วนแสดงนิทรรศการรอบห้องฉายดาว โดยไฮไลต์ของที่นี่อยู่ภายในห้องฉายดาว ที่มีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ จัดแสดงภาพหมู่ดาวต่าง ๆ ในจักรวาล ผ่านเครื่องฉายดาวที่มีความคมชัดสูง สามารถฉายดาวฤกษ์ได้ 9,000 ดวง รวมถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ 5 ดวง ที่เคลื่อนผ่านกลุ่มดาวต่าง ๆ ตลอดจนทางช้างเผือก,กระจุกดาว,เนบิวลา,ดาวหาง,ดาวตก,แสงรุ่งอรุณ,แสงสนธยา แสดงการเกิดสุริยุปราคา,จันทรุปราคา,เส้นศูนย์สูตร,เส้นสุริยวิถี,เส้นเมริเดียน,ระบบสุริยะ และโลกหมุนรอบตัวเอง นอกจากนี้ในบางครั้งยังมีนิทรรศการพิเศษที่จะฉายเป็นรอบ รอบละไม่กี่วันเท่านั้นอีกด้วย
ที่มาภาพ : ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium
ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ถนนสุขุมวิท ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเอกมัย และสถานีขนส่งเอกมัย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : 9.00 – 16.00 น.
เว็บไซต์ : ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium
6. ป่าในกรุง กรุงเทพฯ
ป่าในกรุง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวปิดเทอมที่จะพาน้อง ๆ หนีฝุ่นควันพิษไปฟอกปอดและสูดอากาศบริสุทธิ์ที่โครงการ “ป่าในกรุง” หรือชื่อเต็มว่า โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในที่ดินของ ปตท. โดยมีการพลิกฟื้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เป็นพื้นที่ปลูกป่านิเวศที่สมบูรณ์ รวมถึงจำลองป่ากรุงเทพฯ ในอดีตที่มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ดั้งเดิมและพันธุ์ไม้หายากกว่า 250 ชนิด ตลอดจนพื้นที่แหล่งน้ำ
ที่มาภาพ : ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท.
ป่าในกรุง กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ถนนสุขาภิบาล 2 เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท.
7. ไร่ปลูกรัก ชลบุรี
ไร่ปลูกรัก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวปิดเทอมที่ห้ามพลาด เพราะที่นี่เป็นฟาร์มออร์แกนิกปลอดสารพิษที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก IFOAM หรือสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ ภายในมีกิจกรรมมากมายให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ ฐานทำว่าวกระบอก,ฐานเก็บไข่เป็ดทำไข่เค็มสูตรโบราณ,ฐานเล่นสไลด์เดอร์ริมนามฐานพายเรือริมนา,ฐานเลี้ยงเป็ดในนาข้าวอินทรีย์,ฐานหุ่นฟางทำมือและของเล่นโบราณ,ฐานปลูกผักปลูกคน,ฐานทุ่งต้นนา และเรียนรู้ประโยชน์จากต้นงาดำออร์แกนิกและน้ำมันงา รวมถึงกิจกรรมเวิร์กช็อปสนุก ๆ อีก RAI PLUK RAK Thai ไร่ปลูกรัก ชลบุรี
ที่มาภาพ : ไร่ปลูกรัก RAI PLUK RAK Thai Organic Farmer
ไร่ปลูกรัก ชลบุรี
ที่ตั้ง : 130 ม.1 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : ไร่ปลูกรัก RAI PLUK RAK Thai Organic Farmer
8. Coro Field ราชบุรี
CORO Field ฟาร์มเมล่อนสไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในเมืองไทย ในอำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ตกแต่งแบบมินิมอล เรียบง่ายแต่มากด้วยประโยชน์ เป็นจุดแวะพักที่คุณสามารถจะอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ เพราะมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ อีกทั้งยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีสูตรลับเฉพาะตัว
ที่มาภาพ : CORO FIELD
Coro Field ราชบุรี
ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : CORO FIELD
9. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ขอแนะนำช่วงปิดเทอม เพราะจะเป็นการเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ หอศิลปฯกรุงเทพแห่งนี้ เป็นสถานที่รวมงานศิลปะ วัฒนธรรม โชว์ความคิดสร้างสรรค์ มีการจัดแสดงงานศิลปะที่น่าสนใจ โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มีทั้ง ภาพยนตร์ ดนตรี วรรณกรรม ภาพวาด
ที่มาภาพ : Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)
ที่อยู่ : 939 ถนน พระรามที่1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ
เวลาเปิด - ปิด : 10.00-19.00 น.
เว็บไซต์ : Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
10. Stanley MiniVenture กรุงเทพฯ
ที่เที่ยวปิดเทอมที่สุดท้ายที่เราขอแนะนำคือ สแตนลีย์ มินิเวนเจอร์ (Stanley MiniVenture) เมืองจำลองมีชีวิตขนาดจิ๋วครั้งแรกในเมืองไทย และยังเป็นเมืองจำลองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยการสร้างเมืองจำลองแห่งนี้สร้างโดยฝีมือคนไทยทั้งหมด ภายใต้แนวคิด Perceptive of Happiness ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะเข้ามาสัมผัสความสุขเล็ก ๆ ของชีวิตผู้คนในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ได้ตื่นตาตื่นใจกับเมืองที่มีชีวิตที่มีความเคลื่อนไหวเสมือนจริง
ที่มาภาพ : Stanley MiniVenture Thailand
Stanley MiniVenture กรุงเทพฯ
ที่อยู่: ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย
เวลาปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น.
เว็บไซต์ : Stanley MiniVenture Thailand
ทั้งหมดนี้คือ 10 ที่เที่ยวปิดเทอมที่เราขอแนะนำว่าต้องไป เรียกว่าได้ทั้งความสนุกและความรู้ ครบทุกรสชาติกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่อยากเที่ยวแบบนี้ อยากไปพักผ่อนตากอากาศริมทะเล เราขอแนะนำ 10 ทะเลใกล้กรุงเทพ วิวสวยนั่งชิวรับลมทะเล
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand