
สรุปข่าว
ปัจจุบันการทำธุรกรรมการเงินผ่านทางออนไลน์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถทำธุรกรรมการเงินจากที่ไหนก็ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งในความสะดวกสบายนี้ หากไม่ระมัดระวังอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้
กองปราบปราม จึงขอแนะนำวิธีการทำธุรกรรมการเงินผ่านทางออนไลน์ ดังนี้
- ไม่ควรใช้รหัสผ่าน (password) ที่ง่ายต่อการคาดเดา เช่น 123456 หรือ วัน/เดือน/ปีเกิด
- ก่อนเข้าใช้ธนาคารออนไลน์ จะต้องมั่นใจหรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้นั้นไม่มีมัลแวร์ (Malware) แฝงอยู่
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ถูกกฎหมาย พร้อมตรวจสอบและอัพเดตโปรแกรมอยู่เสมอ
- ไม่ติดตั้งหรือดาวน์โหลดโปรแกรมแปลกๆ หรือโปรแกรมที่ไม่ถูกกฎหมาย เพราะอาจเป็นช่องทางให้มัลแวร์เข้ามาในคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตได้
- ไม่ใช้ลิงก์เชื่อมโยงที่มากับอีเมลหรือในเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์ แต่ควรพิมพ์ URL ด้วยตัวเอง
- ไม่ทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ แต่หากจำเป็น ให้เปลี่ยนรหัสผ่านหลังจากใช้งานทันที
- ตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวในบัญชี และการเข้าใช้ระบบธนาคารออนไลน์อยู่เสมอ ว่าเป็นรายการที่ได้ทำไว้หรือไม่
- ควร "ออกจากระบบ" (log out) ทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
- จำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมผ่านธนาคารออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีถูกมิจฉาชีพขโมยรหัสผ่าน
- ธนาคารไม่มีนโยบายส่ง SMS หรือ email เพื่อให้ดาวน์โหลด ติดตั้งโปรแกรม หรือเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์
- หากคลิกลิงก์ต้องสงสัย ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคารทันทีและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานที่ปลอดภัย
ข้อมูลจาก กองปราบปราม
ภาพจาก AFP / TNN ONLINE
- อย่าหลงเชื่อ! พายุสุริยะรุนแรง อาจทำให้ระบบธนาคารล่ม เงินหายหมดบัญชี
- ติดอะไร? ระวังชีวิตพัง มิจฉาชีพจับจุดจิตวิทยาเหยื่อแม่นยิ่งกว่า AI
- โฆษณาปลอมเกลื่อน หนึ่งในรายได้ FB-IG หรือกำไรจะสำคัญกว่าความปลอดภัยผู้ใช้งาน
- เตือนภัย 7 ขั้นตอนมิจฉาชีพหลอกทำภารกิจ อ้างจะได้เงินก้อนใหญ่
- เปิด 5 เหตุผลทำไม? คนไทยจำนวนมาก ถึงตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
- เบสท์ ชนิดาภา แชร์ประสบการณ์ "ติดกับดัก" มิจฉาชีพ ทั้งที่เป็นคนระวังตัวมาก
- สาวร่ำไห้! ถูกมิจฉาชีพหลอกทำภารกิจ สุดท้ายโอนเงินเกือบ 3 แสนให้จนหมดตัว
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand