
สรุปข่าว
วันนี้ ( 22 พ.ค. 65 )นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการลงโทษโดยตัดผมนักเรียนว่า ไม่มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ฉบับใด ที่ให้อำนาจครูลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม
ซึ่งระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ในข้อ 7 ก็กำหนดให้สถานศึกษาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียน วางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ เช่น โรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับนาฏศิลป์ ซึ่งมีการจัดการเรียนการสอนที่ต้องการไว้ทรงผมนักเรียนในรูปแบบเฉพาะ เป็นต้น
ทั้งนี้ หลักการที่ต้องยึดถือในการวางระเบียบ คือ ความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น ดังนั้น ตราบใดที่การไว้ทรงผมของนักเรียนไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามระเบียบของสถานศึกษา หรือของกระทรวงฯ แล้ว การลงโทษนักเรียนย่อมไม่สามารถทำได้
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า เมื่อพิจารณาถึงวิธีการลงโทษที่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 แล้ว ก็ยิ่งไม่พบว่ามีข้อไหนที่ให้คุณครูสามารถลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผมแม้แต่ข้อเดียว ซึ่งตามข้อ 5 ของระเบียบฯ มีโทษเพียง 4 สถานเท่านั้น คือ ว่ากล่าวตักเตือน, ทำทัณฑ์บน, ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อีกทั้งการลงโทษตามระเบียบฯ ดังกล่าว ก็มีเจตนาเพียงเพื่อให้ครูใช้แก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ไม่ใช่การลงโทษด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท ตามที่ข้อ 6 ของระเบียบฯ นี้ ได้บัญญัติห้ามไว้อยู่
ดังนั้น ขอให้ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่า การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงการใช้ความรุนแรงอื่น เช่น การใช้ไม้เรียว การหยิก ตบ ตีร่างกาย หรือการประจานให้อับอาย ฯลฯ นอกจากจะเป็นการละเมิดสิทธิทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักเรียนแล้ว การลงโทษด้วยวิธีการเหล่านั้นไม่สามารถทำได้ เพราะขัดต่อระเบียบของ ศธ. และผิดกฎหมายด้วย
“แม้การสร้างระเบียบวินัยจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเรียน และเป็นหน้าที่ที่ครูจะต้องทำให้เกิดขึ้น แต่ดิฉันไม่คิดว่าการลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม หรือการใช้ความรุนแรงอื่นที่กระทำต่อเนื้อตัวร่างกาย หรือจิตใจของนักเรียน จะช่วยให้เด็ก ๆ เกิดความตระหนักรู้ในบทบาทและหน้าที่ที่ตัวเอง ยิ่งถ้าเราเข้าใจว่า ‘ระเบียบวินัย’ นั้น ไม่ได้หมายถึง การทำให้ทุกคนมีลักษณะเหมือนกัน แต่หมายถึง การทำให้ ‘แต่ละคน’ รู้จักวางตัว และเลือกใช้พฤติกรรมที่เหมาะสมกับบุคคลอื่นในสังคม การลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรงยิ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการสร้างระเบียบวินัย
ทั้งนี้ หากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือนักเรียน พบเห็นการลงโทษนักเรียนที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งมาที่ระบบ MOE Safety Center ผ่าน 4 ช่องทาง ดังนี้ Application MOE Safety Center, http://www.MOESafetyCenter.com, LINE @MOESafetyCenter หรือที่ Call Center โทร. 0-2126-6565” นางสาวตรีนุช กล่าว

ข้อมูลจาก : กระทรวงศึกษาธิการ
ภาพจาก : AFP
- งบประมาณปี 2569 เพิ่มขึ้นเน้นศึกษา-ท้องถิ่น ลดงบกลางครั้งใหญ่
- ทรัมป์สั่งยุบ "กระทรวงศึกษาธิการ" ปม สิ้นเปลือง-ไร้ประสิทธิภาพ-บ่มมาร์กซิสต์
- เจาะลึกงบจ่ายบุคลากรรัฐ ปี 68 – การลงทุนเพื่อคุณภาพ?
- โฆษก ศธ. ยืนยัน "ทรงติ่งหู-ขาว 3 ด้าน" ไม่ใช่ทรงผมนักเรียนแล้ว ให้โรงเรียนพิจารณาเอง
- ศธ.ยืนยันยกเลิกระเบียบ “ผมสั้นติ่งหู - ไถเกรียน” ให้ รร.ใช้วิจารณญาณเอง
- พล.ต.อ. เพิ่มพูน ปฐมนิเทศ ครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 1 กสศ.ให้เป็นครูผู้ส่งต่อโอกาสให้เด็กรุ่นต่อไป ตามนโยบายเรียนดีมีความสุข
- แจก Tablet 2567 บทเรียนราคาแพง สู่ความหวังใหม่?
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand