
สรุปข่าว
วันนี้ (27 พ.ค.65) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย Anti-Fake News Center Thailand ระบุว่า การแอบเข้าโทรศัพท์ของผู้อื่น หรือเข้าใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียของผู้อื่นหรือการแฮ็กเกอร์เข้าไปโดยมิชอบ ที่ถือเป็นพื้นที่ข้อมูลส่วนตัว
จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 5 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากแอบเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้อื่น ที่มีการตั้งรหัสป้องกันไว้ ก็จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 7 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง หรือใช้หลอกลวงผู้อื่น การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นโดยมิชอบ
ตามแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 หากผู้เสียหายได้รับความเสียหายก็มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนได้จากผู้กระทำความผิดได้.

ข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ
ภาพจาก AFP
- เมื่อแต่งงาน คู่สมรสต้องมีสกุลเดียวกัน : กฎหมายร้อยปีของญี่ปุ่นที่คนในปัจจุบันอยากแก้ไข
- ศาลสหรัฐฯ ระงับคำสั่งเนรเทศชาวเวเนซุเอลา
- ทำไม "ทรัมป์" อยากส่งชาวอเมริกันไปขังคุกนรกของเอลซัลวาดอร์
- สรุปขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ปล่อยโกงมา 10 ปี ข้าราชการนับร้อยมีเอี่ยว
- Gen Z เสพติดโซเชียล ใช้เน็ตเกิน 12 ชม. รู้ว่าไม่ดี แต่ก็เลิกไม่ได้
- เปิดสถิติปี 2567 มิจฉาชีพหลอกลวงคนไทยพุ่ง 168 ล้านครั้ง สูงสุดในรอบ 5 ปี
- ทั่วโลกเข้มงวดคุมเด็กใช้โซเชียล… แล้วไทยล่ะ?
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand