
วันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปี คือ “วันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ” (National Forget-Me-Not Day) วันสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อ ระลึกถึงและให้เกียรติแก่วีรบุรุษทหารผ่านศึก โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
นอกจากจะเป็นวันแห่งการแสดงความขอบคุณต่อผู้เสียสละเหล่านั้นแล้ว วันนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เตือนใจให้เราหันกลับมา “ใส่ใจคนรอบข้าง” ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนที่อาจห่างหายไปนาน ให้รู้ว่า “พวกเขาไม่เคยถูกลืม” เช่นเดียวกับชื่อของดอกไม้แสนสวย “ฟอร์เก็ตมีน็อต (Forget-Me-Not)”
ประวัติและที่มาของวันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ
“วันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ” มีจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464) หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เพียงไม่กี่ปี โรเบิร์ต เอส. มาร์กซ์ (Judge Robert S. Marx) อดีตผู้พิพากษาและทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ได้เล็งเห็นว่าทหารจำนวนมากที่กลับจากสงครามในสภาพบาดเจ็บและพิการ
ยังขาดการดูแลและการสนับสนุนจากสังคม
สรุปข่าว
วันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปี คือ “วันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ” (National Forget-Me-Not Day) วันสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อ ระลึกถึงและให้เกียรติแก่วีรบุรุษทหารผ่านศึก โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
นอกจากจะเป็นวันแห่งการแสดงความขอบคุณต่อผู้เสียสละเหล่านั้นแล้ว วันนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่เตือนใจให้เราหันกลับมา “ใส่ใจคนรอบข้าง” ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนที่อาจห่างหายไปนาน ให้รู้ว่า “พวกเขาไม่เคยถูกลืม” เช่นเดียวกับชื่อของดอกไม้แสนสวย “ฟอร์เก็ตมีน็อต (Forget-Me-Not)”
ประวัติและที่มาของวันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ
“วันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ” มีจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464) หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เพียงไม่กี่ปี โรเบิร์ต เอส. มาร์กซ์ (Judge Robert S. Marx) อดีตผู้พิพากษาและทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ได้เล็งเห็นว่าทหารจำนวนมากที่กลับจากสงครามในสภาพบาดเจ็บและพิการ
ยังขาดการดูแลและการสนับสนุนจากสังคม
เขาจึงริเริ่มจัดกิจกรรมพิเศษขึ้น เพื่อระดมทุนช่วยเหลือทหารเหล่านั้นโดยเลือก “ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต” (Forget-Me-Not) เป็นสัญลักษณ์ของงาน
พร้อมตั้งชื่อวันว่า “Forget-Me-Not Day” เพื่อสื่อสารถึงความตั้งใจว่า “อย่าลืมผู้ที่เสียสละเพื่อชาติ”
ดอกฟอร์เก็ตมีน็อต ซึ่งมีสีฟ้าอ่อนและรูปทรงอ่อนโยน ถูกเลือกเพราะเป็นดอกไม้ที่สื่อถึง “ความทรงจำ ความผูกพัน และความรักที่ไม่เลือนหาย”
ในขณะเดียวกัน กิจกรรมนี้ยังช่วยระดมเงินบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้พิการจากสงคราม เช่นเดียวกับการขายดอกป๊อปปี้ในประเทศอื่น ๆ ที่ใช้สนับสนุนทหารผ่านศึกเช่นกัน
ทั้งนี้วันดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแห่งชาติ ไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงเหล่าวีรบุรุษทหารผ่านศึกเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่เชิญชวนให้ผู้คน “กลับมาเชื่อมโยงความสัมพันธ์” กับคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ได้คุยกันมานาน โทรศัพท์หาคนในครอบครัวที่คิดถึง หรือแม้แต่การบอกใครสักคนว่า “เขาสำคัญกับเราเสมอ”
ที่มาข้อมูล : www.daysoftheyear.com
ที่มารูปภาพ : Canva
