
ทุกวันที่ 16 พฤศจิกายนของทุกปี คือ “วันฟาสต์ฟู้ดแห่งชาติ” (National Fast Food Day) วันที่คนทั่วโลกจะได้ “ตามใจปาก” กันแบบไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะนี่คือวันพิเศษที่ชวนให้ทุกคนมาฉลองกับเมนูโปรดที่ทำเสร็จเร็ว อร่อยง่าย และพร้อมเสิร์ฟในไม่กี่นาที
ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ชีสแน่น ๆ ชุดไก่ทอดหอมกรอบ หรือไก่ทอดชิ้นโปรดจากร้านประจำ วันนี้คือ “ข้ออ้างที่ดีที่สุด” ในการกินของอร่อยแบบไม่ต้องคิดเยอะ
ประวัติของวันอาหารจานด่วนแห่งชาติ
“อาหารจานด่วน” หรือ Fast Food ถือกำเนิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อรถยนต์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนต้องการอาหารที่ “รวดเร็วและพกพาสะดวก” เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบของยุคนั้น
สรุปข่าว
ทุกวันที่ 16 พฤศจิกายนของทุกปี คือ “วันฟาสต์ฟู้ดแห่งชาติ” (National Fast Food Day) วันที่คนทั่วโลกจะได้ “ตามใจปาก” กันแบบไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะนี่คือวันพิเศษที่ชวนให้ทุกคนมาฉลองกับเมนูโปรดที่ทำเสร็จเร็ว อร่อยง่าย และพร้อมเสิร์ฟในไม่กี่นาที
ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ชีสแน่น ๆ ชุดไก่ทอดหอมกรอบ หรือไก่ทอดชิ้นโปรดจากร้านประจำ วันนี้คือ “ข้ออ้างที่ดีที่สุด” ในการกินของอร่อยแบบไม่ต้องคิดเยอะ
ประวัติของวันอาหารจานด่วนแห่งชาติ
“อาหารจานด่วน” หรือ Fast Food ถือกำเนิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อรถยนต์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนต้องการอาหารที่ “รวดเร็วและพกพาสะดวก” เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบของยุคนั้น
แบรนด์แรกที่เริ่มต้นยุคอาหารจานด่วนคือ White Castle ที่เปิดในปี ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464) เป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ราคาถูก ก่อนที่ความนิยมจะแพร่กระจายไปทั่วอเมริกาในช่วงปี 1950 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “วัฒนธรรมการกินแบบอเมริกัน”
จากนั้น Fast Food ก็เดินทางข้ามทวีป กลายเป็นวัฒนธรรมระดับโลกที่ทุกประเทศมีร้านอาหารจานด่วนในแบบของตัวเอง ตั้งแต่ แฮมเบอร์เกอร์ในนิวยอร์ก ไปจนถึง ข้าวหน้าไก่ทอดในโตเกียว
ทำไมคนทั่วโลกถึงหลงรัก “ฟาสต์ฟู้ด”
เพราะมันคือ “ความสะดวกและความสุขในเวลาเร่งรีบ” แม้อาหารจานด่วนจะมักถูกมองว่า “ไม่ดีต่อสุขภาพ” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันคือของกินที่สร้างความสุขได้ทันทีที่กัดคำแรก
ปัจจุบันอาหารจานด่วนไม่ได้มีแค่แบบ “ทอดมัน ๆ มัน ๆ” แต่ยังมีเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพ เช่น แซนด์วิชโฮลวีต สลัดอกไก่ เบอร์เกอร์เนื้อพืช (Plant-based Burger) ตอบโจทย์ทั้งคนรักความสะดวกและคนรักสุขภาพไปพร้อมกัน
ที่มาข้อมูล : www.daysoftheyear.com
ที่มารูปภาพ : Canva
