
สรุปข่าว
วันนี้ ( 26 ก.ค. 66 )การทางพิเศษแห่งประเทศไทย แนะประชาชนหากเจอฝนตกหนักจนน้ำท่วมถนน ระดับน้ำสูงแค่ไหนไม่ควรขับลุยเสี่ยงเครื่องยนต์ รถเสีย
ระดับน้ำ 5 - 10 เซ็นติเมตร ขับผ่านได้ทุกคัน แต่ยังต้องระมัดระวัง ไม่ควรใช้ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เพราะถนนลื่น
ระดับน้ำ 10 - 20 เซ็นติเมตร รถทุกประเภทยังขับผ่านไปได้ รถขนาดเล็กควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยังมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถ
ระดับน้ำ 20 - 40 เซ็นติเมตร รถอีโคคาร์ต้องระวัง เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีความสูงจากระดับพื้น 15 - 17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้
ระดับน้ำ 40 - 60 เซนติเมตร รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง รถกระบะยังฝ่าไปได้ ปิดแอร์ขณะขับ ป้องกันพัดลมแอร์หน้ารถดูดละอองน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับ ขับขี่ให้ช้าลง
ระดับน้ำ 60-80 เซ็นติเมตร อันตรายต่อรถทุกคัน ไม่ควรขับลุย! เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่างๆ ได้
ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 เซนติเมตร อันตราย! ควรใช้เส้นทางอื่น เพราะระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม. ท่วมฝากระโปรงรถ ท่วมไฟหน้ามิด อันตรายต่อเครื่องยนต์ ควรปิดระบบไฟต่างๆ เพื่อป้องกันการลัดวงจร
ทั้งนี้ หลังจากขับรถลุยน้ำ อย่าลืมตรวจเช็คการทำงานของระบบเบรก เหยียบเบรกย้ำๆ เพื่อไล่น้ำออก และขับขี่ให้ช้าลง เพื่อความปลอดภัย

ข้อมูลจาก : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
ภาพจาก : AFP
- เช็กด่วน 8 สัญญาณเตือนต้องหยุดพัก เมื่อขับรถเป็นเวลานาน
- น้ำท่วมรถ ขับรถลุยน้ำท่วม ประกันจ่ายไหม เคลมค่าเสียหายได้เท่าไร?
- เช็กที่นี่ หากรถดับกลางน้ำท่วม ต้องทำอย่างไร?
- ขับรถฝ่าน้ำท่วม ‘ป้ายทะเบียนหาย’ ต้องทำอย่างไร
- เตือนขาซิ่ง! ขับรถเหยียบน้ำกระเด็นใส่คนอื่น เสี่ยงติดคุกสูงสุด 3 ปี
- 5 เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วมให้ปลอดภัยในช่วงมรสุมเข้าไทย
- ผู้ประกาศสาวเล่านาทีชีวิต!รถถูกน้ำท่วมจันทบุรีสูงถึงอก ซัดลอยไปตามกระแสน้ำ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand