
สรุปข่าว
จากนโยบายของรัฐบาลที่ได้ยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขผ่านโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ โดยในเบื้องต้นได้นำร่องใน 4 เขตสุขภาพ คือ จังหวัดแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และจังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมานั้น
สำหรับในเฟส 2 จะมีการขยายเพิ่มอีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ในเดือน มี.ค. - เม.ย.นี้ หลังจากนั้นจะดูความพร้อม หากไม่มีปัญหาจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศและขยายทั่วประเทศภายใน 1 ปี คือภายในสิ้นปี 2567
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานในเฟส 1 สร้างความพอใจต่อการใช้บริการของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยประชาชนสามารถไปรักษาที่โรงพยาบาล ร้านขายยา คลินิก แล็บ ได้ทุกสังกัดไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน ร่วมถึงคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับบริการที่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถมารับบริการที่คลินิกทันตกรรมได้นั้น จะเป็นไปตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนด คือ บริการตรวจฟัน รวมทั้งงานหัตถการซึ่งจะมี 5 บริการ คือ 1.อุดฟัน 2.ถอนฟัน 3.ขูดหินปูน 4.เคลือบหลุมร่องฟัน และ 5.เคลือบฟลูออไรด์ โดยเบื้องต้น สปสช.กำหนดใช้สิทธิรับบริการได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปีงบประมาณ แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องรับบริการเพิ่ม ก็สามารถไปรับบริการต่อในโรงพยาบาลรัฐ หรือรับบริการต่อที่คลินิกโดยชำระเงินเอง
- ผลโพลชี้ประชาชนหนุน "นายกฯแพทองธาร" นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นำโด่ง
- “สมศักดิ์” ลุยลำพูน ยกทัพ 10 คลินิก แก้โรค NCDs สิ้นปีขยายเทเลเมดิซีน 500 แห่ง
- "สมศักดิ์" กำชับ จนท.สาธารณสุข ร่วมส่งประชาชนกลับเข้าทำงานอย่างปลอดภัย
- ขยายการติดตั้ง “ตู้ห่วงใย” ในต่างจังหวัด เพิ่มอีก 9 จุด
- ปลดล็อกคำสั่งระงับกิจกรรมทุนโครงการร่วมมือไทย - สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข
- เปรียบเทียบ สิทธิประกันสังคม vs สิทธิบัตรทอง ใครสิทธิมากกว่า?
- Editor's Pick: นโยบายของ "ทรัมป์" ที่อาจส่งผลกระทบต่อ "คนไทย"
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand