กต. เผยสถานการณ์ในเมียนมายังไม่แน่นอน ย้ำ 3 หลักการสำคัญ!

ภายหลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา โดยมี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ ได้เรียกประชุมนัดแรกเพื่อติดตามสถานการณ์จากหน่วยงานด้านความมั่นคง

ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่ารัฐบาลไทยยังคงยืนยัน 3 หลักการสำคัญคือยึดมั่นในการรักษาอธิปไตยของประเทศ ที่ถือเป็นเรื่องหลัก ดูแลคนไทยไม่ให้ได้รับผลกระทบ ยืนยันไม่ให้มีการใช้ดินแดนของไทยในการต่อต้านรัฐบาลเมียนมา และที่สำคัญยังย้ำในหลักการมนุษยธรรมที่ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งทั้งสามข้อถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของรัฐบาลไทย

พร้อมมอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังไม่แน่นอน ดังนั้นจะต้องมีการประเมินสถานการณ์รายวัน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศจะดูแลด้านการประสานงานกับต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมทั้งประสานท่าทีของอาเซียน ซึ่งบ่ายวันนี้ นายปานปรีย์จะลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ การสู้รบ และพื้นที่ฝั่งไทย รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้วยตัวเอง และหลังจากนี้จะมีความชัดเจนในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ ขณะเดียวกันนายปานปรีย์ จะไปติดตาม แผนอพยพซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ยืนยันว่ารับมือได้และทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี

นายนิกรเดช ย้ำว่า จะไม่ให้มีการตั้งกองกำลังในฝ่ายไทยอย่างแน่นอนและมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้นด้วย และไม่อนุญาตให้ใช้ดินแดนไทย ในการก่อตั้งกองกำลัง ซึ่งเชื่อว่าเมียนมา ก็รู้หลักการนี้ดี   อย่างไรก็ตาม ทางการไทยพร้อมเจรจากับกลุ่มต่างๆ เพื่อให้เกิดสันติภาพ เหตุการณ์สงบลง แต่จะเข้าไปก็ต้องเมื่อมีการร้องขอจากทางการเมียนมาให้เข้าไปเป็นคนกลางในการพูดคุย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการส่งสัญญาณร้องขอใดๆ ออกมาจากทางการเมียนมา แต่ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านและมีชายแดนติดกันกว่า 2,000 กิโลเมตร ไม่อยากให้การสู้รบเกิดขึ้น และต้องการให้เสถียรภาพความมั่นคงเกิดขึ้นในเมียนมา