
สรุปข่าว
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุถึง กรณีพบผู้ป่วนโรคฝีดาษลิง clade 1bรายแรกในประเทศไทย ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้ติดตามใกล้ชิดผู้สัมผัสผู้ป่วย 43 คนและยังไม่พบอาการป่วยเพิ่มเติม
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาและกลุ่มประเทศแถบยุโรปพบว่า clade 1b ติดง่ายกว่า ฝีดาษลิง clade 2 โดยclade 1b สามารถติดต่อได้ จากการสัมผัสใกล้ชิด หรือการอยู่ร่วมกันเป็นเวลานานในห้องปิด โดยclade 1b ส่งผลให้เกิดอาการป่วยหนักได้มากกว่า ร้อยละ10 และส่งผลให้เสียชีวิตได้
โดยประชาชนที่จะเดินทางไปประเทศที่ WHO ประกาศภัยด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน จำเป็นต้องดูแลตัวเอง สามารถป้องกันโรคได้โดยการล้างมือและสวมใส่หน้ากากอนามัย สามารถป้องกันการติดเชื้อทางละอองฝอยและการสัมผัสได้
สำหรับวัคซีนยังคงมีความจำเป็นในกลุ่มที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะกลุ่มไกด์ และพนักงานโรงแรม ที่ต้องต้อนรับแขกต่างชาติ เป็นกลุ่มที่ควรต้องรับการฉีดวัคซีน อีกกลุ่มคือผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานที่แอฟริกาและยุโรป เนื่องจากวัคซีนสามารถป้องกันโรคได้ดี
- จีนผวา! พบผู้ติดเชื้อ "ฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่" 5 ราย ต้นตอจากคองโก
- รายแรก! แคนาดา ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง "สายพันธุ์เคลด 1"
- WHO อนุมัติใช้วัคซีนโรคฝีดาษลิงจากบริษัท KM Biologics ของญี่ปุ่น
- WHO อนุมัติใช้ "วัคซีนฝีดาษลิง" จากบริษัทญี่ปุ่น สำหรับใช้กรณีฉุกเฉิน
- ฝีดาษลิง ในแอฟริกาพบแล้วเกือบ 3 หมื่นคน "อินเดีย" พบผู้ป่วยชนิดรุนแรงรายแรก
- สธ.ยกระดับโรค “ฉี่หนู”บนเวทีโลก ชงบรรจุเป็นโรคเขตร้อนที่ถูกละเลยของ WHO
- กรมควบคุมโรค สั่งนำเข้า วันซีนฝีดาษลิง 3,000 โดส เตรียมเริ่มใช้ในกลุ่มเสี่ยงก่อน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand