ดาวเทียมเผยไทยพบจุดร้อน 776 จุด - เพื่อนบ้าน “กัมพูชา” สูงสุด

ดาวเทียมเผยไทยพบจุดร้อน 776 จุด - เพื่อนบ้าน “กัมพูชา” สูงสุด

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS รวมถึงข้อมูลจากดาวเทียมดวงอื่น ๆ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 พบว่าประเทศไทยมีจุดความร้อนรวมทั้งสิ้น 776 จุด โดยแยกออกเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้:
- ป่าสงวนแห่งชาติ 201 จุด
- ป่าอนุรักษ์ 164 จุด
- พื้นที่เกษตรกรรม 164 จุด
- พื้นที่เขต ส.ป.ก. 144 จุด
- พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่น ๆ 94 จุด
- พื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามีจำนวนมากที่สุดที่ กัมพูชา 1,971 จุด รองลงมาคือ ลาว 285 จุด, เมียนมา 274 จุด และ เวียดนาม 88 จุด

สรุปข่าว

GISTDA รายงานสถานการณ์วันที่ 28 ม.ค. 2568 พบจุดความร้อนสูงสุดในกัมพูชา 1,971 จุด ขณะที่ไทยมี 776 จุด ส่วนใหญ่กระจายในป่าสงวนฯ และพื้นที่เกษตรกรรม ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ เกินมาตรฐาน 12 เขต มีค่าเฉลี่ย 32.8 มคก./ลบ.ม. กรมอุตุฯ เตือน 30 ม.ค. - 4 ก.พ. 2568 ค่าฝุ่นอาจเพิ่มขึ้น ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS รวมถึงข้อมูลจากดาวเทียมดวงอื่น ๆ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 พบว่าประเทศไทยมีจุดความร้อนรวมทั้งสิ้น 776 จุด โดยแยกออกเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้:
- ป่าสงวนแห่งชาติ 201 จุด
- ป่าอนุรักษ์ 164 จุด
- พื้นที่เกษตรกรรม 164 จุด
- พื้นที่เขต ส.ป.ก. 144 จุด
- พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่น ๆ 94 จุด
- พื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด
สำหรับจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามีจำนวนมากที่สุดที่ กัมพูชา 1,971 จุด รองลงมาคือ ลาว 285 จุด, เมียนมา 274 จุด และ เวียดนาม 88 จุด

สำหรับ สถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครช่วงเช้าของวันที่ 29 มกราคม 2568 โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่พบว่ามี 12 พื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน (ระดับสีส้ม) โดยมีค่าเฉลี่ย 32.8 มคก./ลบ.ม. ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่อาจกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
พื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ได้แก่:
เขตลาดกระบัง (ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล) - 45.5 มคก./ลบ.ม.
เขตหนองแขม (สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81) - 43.9 มคก./ลบ.ม.
เขตบางกอกน้อย (หน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย) - 40.7 มคก./ลบ.ม.
เขตสวนหลวง (ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง) - 40.4 มคก./ลบ.ม.
เขตภาษีเจริญ (หน้ามหาวิทยาลัยสยาม ซอยเพชรเกษม 36) - 40.0 มคก./ลบ.ม.
เขตพระโขนง (ภายในสำนักงานเขตพระโขนง) - 39.1 มคก./ลบ.ม.
เขตธนบุรี (ริมป้ายรถเมล์แยกมไหศวรรย์) - 38.9 มคก./ลบ.ม.
เขตทวีวัฒนา (ทางเข้าสนามหลวง 2) - 38.7 มคก./ลบ.ม.
เขตคลองสามวา (ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา) - 38.5 มคก./ลบ.ม.
สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง - 37.7 มคก./ลบ.ม.
เขตบางขุนเทียน (ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน) - 37.7 มคก./ลบ.ม.
เขตสายไหม (ป้ายรถเมล์หน้าสำนักงานเขตสายไหม) - 37.6 มคก./ลบ.ม.

ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง และระดับเพดานการระบายอากาศลดต่ำลง ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2568 จำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพลมที่อ่อนลงอาจทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นอีก

คำแนะนำในช่วงค่าฝุ่นละอองกลับมาสูง

- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองสูง
- สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์คุณภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม

ที่มาข้อมูล : GISTDA, กรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มารูปภาพ : GISTDA , TNN

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ฝุ่นจุดความร้อน
จุดความร้อนในไทย
จุดความร้อนประเทศเพื่อนบ้าน
ค่าฝุ่นค่าฝุ่นวันนี้