
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “โอกาสทางธุรกิจด้านการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพร สู่ตลาดตะวันออกกลางและซาอุดิอาระเบีย” และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการส่งเสริมการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย ระหว่าง นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนายไพศาล พรหมยงค์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี เอกอัครราชทูตประเทศซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ บาห์เรน ตุรกี อียิปต์ คูเวต ผู้ประกอบการและภาคีเครือข่ายธุรกิจสุขภาพและสมุนไพร เข้าร่วม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเปิดตลาดใหม่ในต่างภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ที่กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งปี 2565 มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามกว่า 1.9 พันล้านคน หรือประมาณร้อยละ 23.54 ของประชากรโลก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับตลาดอาหารฮาลาลทั่วโลกที่มีมูลค่าทางการตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวมุสลิม โดยเฉพาะตลาดซาอุดิอาระเบีย ที่นอกจากเป็นตลาดใหญ่แล้วยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่มีประชากรเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์นับล้านคนต่อปี จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ และเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายธุรกิจด้านสุขภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในตลาดนี้ โดยมี “ฮาลาล” เป็นกุญแจสำคัญในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพและสมุนไพรไทยไปยังตะวันออกกลางเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีมาตรฐานฮาลาล และการนวดไทยให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับประเพณีและวัฒนธรรมอิสลาม โดยพร้อมเดินหน้าผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของโลกและขยายตลาดสู่ซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลางให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เตรียมนำร่องที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศแรกในช่วงพิธีฮัจย์ เดือนมิถุนายน 2568 นี้ ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านการนวดไทยสำหรับตลาดตะวันออกกลางให้กับหมอนวดไทยผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 123 คน เน้นหลักการแพทย์แผนไทย, การบริการลูกค้าต่างชาติ, การใช้ภาษาสำหรับงานบริการ และวัฒนธรรมอิสลาม ตลอดจนอบรมยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่มาตรฐานฮาลาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการตลาดมุสลิม หนุนอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก โดยวันนี้ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อร่วมกันส่งเสริมธุรกิจการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเข้าสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจและขยายโอกาสการค้าการลงทุนมุ่งสู่ศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก ซึ่งมีผู้ประกอบการระดับ Micro SMEs, Small SMEs และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีการเจรจาธุรกิจ จำนวน 72 คู่การค้า จาก 24 บริษัท คิดเป็นมูลค่างทางการตลาด กว่า 150 ล้านบาท
สรุปข่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “โอกาสทางธุรกิจด้านการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพร สู่ตลาดตะวันออกกลางและซาอุดิอาระเบีย” และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการส่งเสริมการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย ระหว่าง นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนายไพศาล พรหมยงค์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี เอกอัครราชทูตประเทศซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ บาห์เรน ตุรกี อียิปต์ คูเวต ผู้ประกอบการและภาคีเครือข่ายธุรกิจสุขภาพและสมุนไพร เข้าร่วม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเปิดตลาดใหม่ในต่างภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ที่กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งปี 2565 มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามกว่า 1.9 พันล้านคน หรือประมาณร้อยละ 23.54 ของประชากรโลก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับตลาดอาหารฮาลาลทั่วโลกที่มีมูลค่าทางการตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวมุสลิม โดยเฉพาะตลาดซาอุดิอาระเบีย ที่นอกจากเป็นตลาดใหญ่แล้วยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่มีประชากรเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์นับล้านคนต่อปี จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ และเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายธุรกิจด้านสุขภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในตลาดนี้ โดยมี “ฮาลาล” เป็นกุญแจสำคัญในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพและสมุนไพรไทยไปยังตะวันออกกลางเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีมาตรฐานฮาลาล และการนวดไทยให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับประเพณีและวัฒนธรรมอิสลาม โดยพร้อมเดินหน้าผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของโลกและขยายตลาดสู่ซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลางให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เตรียมนำร่องที่ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศแรกในช่วงพิธีฮัจย์ เดือนมิถุนายน 2568 นี้ ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านการนวดไทยสำหรับตลาดตะวันออกกลางให้กับหมอนวดไทยผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 123 คน เน้นหลักการแพทย์แผนไทย, การบริการลูกค้าต่างชาติ, การใช้ภาษาสำหรับงานบริการ และวัฒนธรรมอิสลาม ตลอดจนอบรมยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่มาตรฐานฮาลาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการตลาดมุสลิม หนุนอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก โดยวันนี้ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อร่วมกันส่งเสริมธุรกิจการนวดไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเข้าสู่ตลาดซาอุดิอาระเบีย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจและขยายโอกาสการค้าการลงทุนมุ่งสู่ศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก ซึ่งมีผู้ประกอบการระดับ Micro SMEs, Small SMEs และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งคาดการณ์ว่า จะมีการเจรจาธุรกิจ จำนวน 72 คู่การค้า จาก 24 บริษัท คิดเป็นมูลค่างทางการตลาด กว่า 150 ล้านบาท
- "สมุนไพรไทย"ดังข้ามทวีปส่ง"ผลิตภัณฑ์ภูไพร"ขายถึงรัสเซีย | เรื่องดีดีทั่วไทย | 28-05-68
- 7 ยาสมุนไพร ที่ควรมีติดบ้าน พิชิตโรคยอดฮิตช่วงฤดูร้อน
- ไทยโชว์นวดไทย ในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai เผยยอดผู้เข้าชมนิทรรศการ 3 วันแรก ทะลุ 18,000 คน
- "สมศักดิ์" ชูเศรษฐกิจสุขภาพ สร้างรายได้เข้าไทย 6.9 แสนล้าน แนะ รพ.รัฐ บริการเทียบโรงแรม 5 ดาว
- ส.อ.ท.จับมือกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพไทย
- "สมศักดิ์" ลดนำเข้ายาต่างประเทศ ตั้งเป้าปี 69 สปสช. ใช้ "สมุนไพรไทย" 3,000 ล้านบาท
- ปวดหัวรุนแรงเฉียบพลัน ความดันโลหิตสูง ห้ามนวดเด็ดขาด
TNNThailand