
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอน กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ซึ่งออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 (พ.ศ. 2515) ที่กำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียน โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ศาลเห็นว่า กฎกระทรวงดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของนักเรียน โดยอ้างอิงแนวคิดเรื่องการสร้างพลเมืองดีตามแบบแผนดั้งเดิม แต่ไม่ได้คำนึงถึงพัฒนาการของเด็ก สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง และความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ
สรุปข่าว
ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอน กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ซึ่งออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 (พ.ศ. 2515) ที่กำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียน โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ศาลเห็นว่า กฎกระทรวงดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของนักเรียน โดยอ้างอิงแนวคิดเรื่องการสร้างพลเมืองดีตามแบบแผนดั้งเดิม แต่ไม่ได้คำนึงถึงพัฒนาการของเด็ก สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง และความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ
นอกจากนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 กำหนดให้การปฏิบัติต่อเด็กต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ และห้ามมิให้มีการปฏิบัติที่เป็นการทารุณกรรมทางร่างกายหรือจิตใจ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กฎกระทรวงฉบับนี้ ไม่ได้คำนึงถึงพัฒนาการและบุคลิกภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัย และเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพเกินสมควรแก่เหตุ
ทั้งนี้ ตามมาตรา 64 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก นักเรียนยังต้องปฏิบัติตามระเบียบของสถานศึกษา ซึ่งอาจกำหนดเรื่องทรงผมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้หลักการที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กและไม่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
ดังนั้น กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) จึงถือว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
- ศาลปกครองสูงสุดสั่งยิ่งลักษณ์ชดใช้ 10,028 ล้าน คดีจำนำข้าว
- ปฏิวัติใบสั่งจราจร สิทธิประชาชนต้องมาก่อน "ไม่จ่าย-โต้แย้ง“ ได้หรือ?
- ศาลปกครองสูงสุด ไม่รับคำฟ้อง “สืบพงษ์” ฟ้องสภา ม.ราม
- ศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคดีแก้ไข TOR รถไฟฟ้าสายสีส้ม
- ศาลสั่งยกคำขอทุเลา “แหลมฉบัง”
- กลุ่มธนโฮลดิ้งยืนยันตั้งใจพัฒนาอู่ตะเภาขับเคลื่อนศก.ไทยก้าวหน้า
- “กลุ่มธนโฮลดิ้ง”ชนะ!ศาลปค.สั่งคกก.คัดเลือกรับข้อเสนอพัฒนาอู่ตะเภาไว้พิจารณา
ที่มาข้อมูล : ศาลปกครองสูงสุด
ที่มารูปภาพ : AFP
TNNThailand