ฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ อ่วม! ทั้ง 2 เมืองค่ามลพิษติดอันดับโลก

ฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ อ่วม! ทั้ง 2 เมืองค่ามลพิษติดอันดับโลก

สถานการณ์ PM2.5 เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ อ่วม! ทั้ง 2 เมืองค่ามลพิษติดท็อป 10 โลก ด้านลาวเผาหนักแซงเมียนมา

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานค่าฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น. พบว่าค่าฝุ่นอยู่ในช่วง 39.0-78.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ อยู่ที่ 59.5 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเกินค่ามาตรฐานจนเข้าสู่ระดับสีแดงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir ระบุว่ากรุงเทพฯ มีค่ามลพิษติดอันดับ 7 ของโลกในวันนี้

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง) ได้แก่

- เขตหนองแขม (สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81) ค่า PM2.5 วัดได้ 78.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา (ทางเข้าสนามหลวง 2) ค่า PM2.5 วัดได้ 75.6 มคก./ลบ.ม.

ในขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) รายงานว่า ณ เวลา 06.00 น. ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในทั้ง 25 อำเภอ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่:

- อำเภอสันป่าตอง วัดได้ 116.4 มคก./ลบ.ม. (สูงสุดในจังหวัด)
- อำเภอหางดง วัดได้ 111.1 มคก./ลบ.ม.
- อำเภอสารภี วัดได้ 110.2 มคก./ลบ.ม.

นอกจากนี้ เชียงใหม่ยังขึ้นอันดับ 2 ของโลก ในเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุด จากการจัดอันดับของ IQAir โดยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (US AQI) 185 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่ม

สรุปข่าว

วันที่ 23 มีนาคม 2568 ค่า PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่สูงเกินมาตรฐาน ส่งผลให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง ซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ โดยกรุงเทพฯ ค่าเฉลี่ย PM2.5 อยู่ที่ 59.5 มคก./ลบ.ม. และเชียงใหม่มีค่าฝุ่นสูงสุดถึง 116.4 มคก./ลบ.ม. จากการเผาในภาคเกษตรและป่าไม้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยมีฝุ่นพิษในระดับอันตราย ควรงดกิจกรรมกลางแจ้งและป้องกันตัวเองจากมลพิษทางอากาศในช่วงนี้

สถานการณ์ PM2.5 เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ อ่วม! ทั้ง 2 เมืองค่ามลพิษติดท็อป 10 โลก ด้านลาวเผาหนักแซงเมียนมา

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานค่าฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น. พบว่าค่าฝุ่นอยู่ในช่วง 39.0-78.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ อยู่ที่ 59.5 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเกินค่ามาตรฐานจนเข้าสู่ระดับสีแดงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อมูลจากเว็บไซต์ IQAir ระบุว่ากรุงเทพฯ มีค่ามลพิษติดอันดับ 7 ของโลกในวันนี้

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง) ได้แก่

- เขตหนองแขม (สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81) ค่า PM2.5 วัดได้ 78.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา (ทางเข้าสนามหลวง 2) ค่า PM2.5 วัดได้ 75.6 มคก./ลบ.ม.

ในขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) รายงานว่า ณ เวลา 06.00 น. ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในทั้ง 25 อำเภอ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่:

- อำเภอสันป่าตอง วัดได้ 116.4 มคก./ลบ.ม. (สูงสุดในจังหวัด)
- อำเภอหางดง วัดได้ 111.1 มคก./ลบ.ม.
- อำเภอสารภี วัดได้ 110.2 มคก./ลบ.ม.

นอกจากนี้ เชียงใหม่ยังขึ้นอันดับ 2 ของโลก ในเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุด จากการจัดอันดับของ IQAir โดยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (US AQI) 185 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่ม

ปัจจัยที่ทำให้ค่าฝุ่นสูง

รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผ่านเฟบุ๊กเช้านี้ว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ของไทย ได้แก่

1. การเผาในที่โล่ง – ประเทศลาวมีสถิติการเผาสูงสุดของปีนี้ แซงหน้าเมียนมา ขณะที่ไทยก็มีการเผาเพิ่มขึ้น
2. ปรากฏการณ์ฝาชีครอบต่ำ – ทำให้ฝุ่นสะสมในอากาศได้นานขึ้น
3. สภาพอากาศปิด – ทำให้ฝุ่นไม่กระจายตัว โดยเฉพาะในพื้นที่แอ่งกระทะ เช่น เชียงใหม่

คำแนะนำเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ

- หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม แดง และม่วง
- สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น N95 เมื่อต้องออกนอกบ้าน
- ปิดประตูหน้าต่างเพื่อป้องกันฝุ่นเข้าภายในอาคาร
- ใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้านหรือสำนักงาน
- หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว และลดการเผาในที่โล่งเพื่อลดมลพิษ

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ยังคงน่าเป็นห่วงและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หากไม่มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ประชาชนควรติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัด

ที่มาข้อมูล : Witsanu Attavanich , กรุงเทพมหานคร, iqair.com, Gistda

ที่มารูปภาพ : AFP