วิธีขอเงินคืนภาษี ปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567

วิธีขอเงินคืนภาษี ปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567

เช็กขั้นตอนขอคืนภาษีปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567 ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร ทำง่าย รวดเร็ว รู้ผลไว ได้เงินคืนตรงบัญชี

วิธีขอเงินคืนภาษี ปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567

เข้าสู่ช่วงยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้ง โดยในปี 2568 นี้ เป็นการยื่นภาษีสำหรับ รายได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษี 2567 หลายคนอาจพบว่าตนเองชำระภาษีไว้เกินกว่าที่ควร ไม่ว่าจะมาจากการถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเกิน หรือมีค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่ช่วยให้ภาษีที่ต้องจ่ายจริงน้อยลง หากเป็นเช่นนั้น ผู้เสียภาษีสามารถ ยื่นขอคืนภาษี ได้ โดยมีขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว ผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร

สรุปข่าว

ขอคืนภาษีปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567 ทำได้ง่าย ๆ ผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร แค่กรอกข้อมูลรายได้ หักลดหย่อน และเลือกวิธีรับเงินคืน โดยเฉพาะบัญชีพร้อมเพย์จะได้เงินไวที่สุด

เช็กขั้นตอนขอคืนภาษีปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567 ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร ทำง่าย รวดเร็ว รู้ผลไว ได้เงินคืนตรงบัญชี

วิธีขอเงินคืนภาษี ปี 2568 สำหรับรายได้ปีภาษี 2567

เข้าสู่ช่วงยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้ง โดยในปี 2568 นี้ เป็นการยื่นภาษีสำหรับ รายได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษี 2567 หลายคนอาจพบว่าตนเองชำระภาษีไว้เกินกว่าที่ควร ไม่ว่าจะมาจากการถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเกิน หรือมีค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่ช่วยให้ภาษีที่ต้องจ่ายจริงน้อยลง หากเป็นเช่นนั้น ผู้เสียภาษีสามารถ ยื่นขอคืนภาษี ได้ โดยมีขั้นตอนที่สะดวก รวดเร็ว ผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร

ขั้นตอนขอคืนภาษี ปี 2568

 1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

 • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

 • เอกสารค่าลดหย่อนต่าง ๆ เช่น ประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ เงินสะสมกองทุน ฯลฯ

 • เลขบัญชีธนาคาร (แนะนำให้ใช้บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน)

 2. เข้าสู่ระบบ e-Filing

 • เข้าเว็บไซต์ www.rd.go.th ของกรมสรรพากร

 • ลงชื่อเข้าใช้ระบบยื่นแบบภาษีออนไลน์ (e-Filing)

 3. ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91

 • กรอกข้อมูลรายได้ทั้งหมด

 • ระบุข้อมูลการหัก ณ ที่จ่าย และค่าลดหย่อนต่าง ๆ

 • ระบบจะคำนวณภาษีที่ต้องชำระ หากผลออกมาเป็นยอดเงินลบ แปลว่าท่านมีสิทธิขอเงินคืน

 4. เลือกวิธีรับเงินคืน

 • พร้อมเพย์ (เร็วที่สุด)

 • โอนเข้าบัญชีธนาคาร (ต้องแนบสำเนาหน้าสมุดบัญชี)

 • รับเช็คทางไปรษณีย์ (ช้าที่สุด)

 5. รอตรวจสอบสถานะ

 • สามารถตรวจสอบสถานะการคืนภาษีได้ในระบบของกรมสรรพากร

 • หากไม่มีเอกสารขาดตกบกพร่อง จะได้รับเงินคืนภายใน 3 สัปดาห์ – 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของข้อมูล

คำแนะนำเพิ่มเติม

 • หากมีการตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม กรมสรรพากรอาจติดต่อขอข้อมูลเพิ่มผ่านระบบ หรือโทรศัพท์

 • แนะนำให้ใช้บัญชีพร้อมเพย์ผูกกับเลขบัตรประชาชน เพราะจะได้รับเงินคืนเร็วที่สุด

 • หากยื่นล่าช้า อาจไม่ได้รับดอกเบี้ยจากเงินภาษีที่ชำระเกิน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN / Freepik

บรรณาธิการออนไลน์