
(27 เม.ย. 68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ประสบเหตุและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ที่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ว่า เมื่อวานนี้ (26 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหาย 1 ร่าง ในโซน D และพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อีก 5 เคส
สรุปข่าว
(27 เม.ย. 68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ประสบเหตุและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ที่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ว่า เมื่อวานนี้ (26 เม.ย. 68) เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหาย 1 ร่าง ในโซน D และพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อีก 5 เคส
ซึ่งได้นำส่งให้สถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ชิ้นส่วนที่พบสามารถประกอบเป็นร่างเดียวกันได้หรือไม่ ส่วนการทำงานมีความคืบหน้าไปด้วยดี เมื่อวานสามารถขนย้ายวัสดุเศษซากอาคารออกจากพื้นที่ได้ 343 เที่ยว และปัจจุบันความสูงของเศษซากอาคาร (จากยอดซากถึงพื้นถนน ไม่รวมชั้นใต้ดิน) อยู่ที่ 2.57 เมตร หากไม่พบอุปสรรคเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเคลียร์เศษซากลงไปถึงชั้นหนึ่งได้ภายในวันพรุ่งนี้
สำหรับสภาพซากอาคาร พบว่าบริเวณพื้นด้านล่างมีสภาพคอนกรีตที่สมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากแรงกระแทกส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณชั้นบน ทำให้ชั้นล่างซึ่งอยู่ระดับต่ำกว่ารับแรงกระแทกน้อยลง โครงสร้างคอนกรีตและเหล็กจึงยังคงสภาพได้ดีกว่า จะมีการนำรถแบ็คโฮหัวเจาะกระแทกมาเพิ่มอีก 2 คัน และวันนี้จะเพิ่มทีมตัดเหล็กจากทหารบก ทหารเรือ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้ามาช่วยในโซน B รวมถึงมีการใช้เครื่องตัดระบบแก๊สร่วมด้วยกัน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการปรับแผนการทำงาน โดยเปิดพื้นที่ด้านหน้าและด้านข้างของอาคารที่ถล่มออก เป็นรูปตัว U เพื่อให้สามารถเข้าถึงซากอาคารได้สะดวกมากขึ้น ปัจจุบันยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 62 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 32 ราย จากผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 ราย และจะมีการค้นหาผู้สูญหายคืนให้ญาติจนครบทุกราย ซึ่งเมื่อลงถึงชั้นใต้ดินได้คาดว่าจะพบผู้สูญหายเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้ได้ส่งชิ้นส่วนร่างกายที่พบกว่า 250 ชิ้นส่วน ให้สถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ผู้อำนวยการสำนักป้องกันฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากเปิดถนนกำแพงเพชร 2 ฝั่งอาคาร สตง. ถล่ม ให้รถสัญจรได้ตามปกติ ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบกับการทำงานบ้าง เนื่องจากเมื่อก่อนรถขนวัสดุอุปกรณ์และซากอาคารสามารถวิ่งย้อนศรในระยะทางที่สั้น แต่เมื่อเปิดการสัญจรตามปกติรถต้องวิ่งในระยะที่ไกลขึ้นเพื่อไปกลับรถ อีกทั้งบางช่วงมีรถติดส่งผลจำนวนเที่ยวในการขนเศษวัสดุช่วงกลางวันลดลง แต่ได้แก้ไขด้วยการเพิ่มจำนวนเที่ยวการขนวัสดุในช่วงกลางคืนเพื่อเป็นการชดเชยเที่ยวการขนวัสดุในช่วงกลางวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยาครบวงจรเหตุ "แผ่นดินไหว" ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน
- แผ่นดินไหวล่าสุด! "อนุทิน" เผยเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท
- แผ่นดินไหวล่าสุด! เยียวยาผู้เสียชีวิตตึก สตง. ถล่มแล้วกว่า 38 ล้าน
- หวั่นท่วมซ้ำ! กทม. เร่งประสานกรมทางหลวง เคลียร์ดินคูน้ำริม ถ.วิภาวดีฯ หลังฝนตกหนักระบายช้า
- ตึก สตง.ถล่ม! ส.วิศวกรฯ ประเมิน 4 ปัจจัยก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม
- นายกฯ ให้กำลังใจญาติผู้สูญเสียและบาดเจ็บ จากกรณีเหตุแผ่นดินไหว
- ตึกสตง. ถล่ม กทม. ปิดฉากภารกิจ 48 วัน เดินหน้าฟื้นฟู-ช่วยเหลือต่อเนื่อง
- ปภ.ทดสอบระบบเตือนภัย ใน 5 จังหวัด เสียงจะดัง 8 วินาที ไม่ต้องตกใจ แค่ทดสอบระบบ
- แนะเลี่ยง "ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก" ขนย้ายเครื่องจักร ปิดจราจรบางเวลา ถึง 15 พ.ค.68
- จบภารกิจ! ตึก สตง. ถล่ม เตรียมถอนกำลัง-ปิดศูนย์บัญชาการฯ 15 พ.ค. 68
