
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศใช้ ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 อย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป โดยสาระสำคัญคือ การเพิ่มอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์ ให้แก่ลูกจ้างที่ไม่ได้รับเงินจากนายจ้างในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน
จากเดิมที่กำหนดอัตราสูงสุดไว้ที่ 60 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน ได้ปรับเพิ่มเป็น 70 เท่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการเสริมหลักประกันให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการถูกนายจ้างละเมิดสิทธิ
สรุปข่าว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศใช้ ระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 อย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป โดยสาระสำคัญคือ การเพิ่มอัตราการจ่ายเงินสงเคราะห์ ให้แก่ลูกจ้างที่ไม่ได้รับเงินจากนายจ้างในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน
จากเดิมที่กำหนดอัตราสูงสุดไว้ที่ 60 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน ได้ปรับเพิ่มเป็น 70 เท่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการเสริมหลักประกันให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการถูกนายจ้างละเมิดสิทธิ
มาตรการนี้ดำเนินการโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) โดยครอบคลุมการจ่ายเงินสงเคราะห์ในกรณีลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานวันหยุด หรือค่าล่วงเวลาในวันหยุด จากนายจ้างที่ฝ่าฝืนกฎหมายแรงงาน
เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ระบุว่า ลูกจ้างที่ต้องการรับสิทธิตามระเบียบใหม่นี้ จะต้องยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน และมีคำสั่งเป็นที่สุด ตั้งแต่วันที่ระเบียบมีผลบังคับใช้ โดยได้กำชับให้พนักงานตรวจแรงงานในทุกพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์สิทธิดังกล่าวแก่ลูกจ้างให้ทั่วถึง เพื่อให้สามารถเข้าถึงการคุ้มครองตามกฎหมายได้จริง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
“เมนส์มา ลาได้” ชวนนายจ้างเพิ่มสิทธิลาหยุดลูกจ้างหญิง เมื่อมีประจำเดือน
เตือน! นายจ้าง อย่าลืมขึ้นทะเบียนหรือแจ้งออกลูกจ้าง ตามกฎหมาย
ประกันสังคม เตือนนายจ้างหักเงินลูกจ้าง แต่ไม่นำส่งเงินสมทบมีความผิด
ประกันสังคม เข้ม! นายจ้าง แจ้งเข้า - ออกลูกจ้าง ล่าช้า ระวังโทษทั้งจำและปรับ
ที่มาข้อมูล : กระทรวงแรงงาน
ที่มารูปภาพ : กระทรวงแรงงาน