น้ำท่วมลดไว กทม. – มทบ.11 - กรมทางหลวง รับมือ "เรนบอม" หน้าฝน ปี 68

น้ำท่วมลดไว กทม. – มทบ.11 - กรมทางหลวง รับมือ "เรนบอม" หน้าฝน ปี 68

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมสื่อมวลชน ลงพื้นที่ติดตามการทำงาน แบบบูรณาการร่วมกัน ระหว่างกรุงเทพมหานคร มณฑลทหารบกที่ 11 และกรมทางหลวง ในการบริหารจัดการน้ำกรุงเทพมหานคร 5 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณโครงการท่อลอดระบายน้ำหน้ามณฑลทหารบกที่ 11, แก้มลิงภายใน มทบ.11, สถานีสูบน้ำคลองแยกคลองบางตลาด ใกล้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, จุดวัดระดับน้ำหน้าศาลปกครองสูงสุด และแก้มลิงบึงสีกัน บริเวณแจ้งวัฒนะ ซอย 14 

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน ในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันอย่างเป็นระบบ อาทิ กรมทางหลวง ที่ล้างท่อและดำเนินโครงการ Flood Way จากคลองเปรมประชากรถึงแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงการก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำร่วมกับ กทม. ขณะที่ มณฑลทหารบกที่ 11 อนุญาตให้ใช้พื้นที่ภายใน มทบ.11 เป็นแก้มลิงรองรับน้ำ และส่งต่อไปยังคลองบางตลาด อีกทั้ง สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ปรับปรุงสถานีสูบน้ำและก่อสร้างเขื่อนเสริม ทำให้ระยะเวลาในการระบายน้ำลดลงอย่างชัดเจน จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 5–6 ชั่วโมง หลังฝนหยุด เหลือเพียง 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ถนนแห้งเร็วขึ้น ลดผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง


รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวอีกว่า แม้จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายจุด แต่ยังมีพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ซึ่งยังคงต้องพึ่งระบบระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร และมีโครงการขยายขนาดท่อที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทำให้การระบายน้ำยังล่าช้า แต่เรามีการเตรียมแผนบรรเทาและป้องกันไว้แล้วระดับหนึ่ง


ด้านนายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกรุงเทพ เปิดเผยว่า โครงการระบบฟลัดเวย์ (Flood Way) ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทในการระบายน้ำจากถนนแจ้งวัฒนะสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีแผนแล้วเสร็จภายในปี 2571 อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะสาธารณูปโภคใต้ดินที่ต้องเคลื่อนย้าย และการขยายท่อระบายน้ำบนถนนสายหลักที่อาจกระทบต่อการจราจร จึงต้องใช้แนวทางเสริมควบคู่กันไป เช่น การเพิ่มจุดสูบน้ำ ปรับปรุงคลองสายหลัก และใช้พื้นที่รองรับน้ำชั่วคราวหรือแก้มลิงเพิ่มเติม

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวย้ำว่า ถนนแจ้งวัฒนะก่อนถึงคลองประปา ที่ผ่านมาช่วงฝนตกหนักช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. 68 คนในพื้นที่จะเห็นได้ว่าน้ำระบายได้ดีขึ้นจริง แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงฝั่งที่ข้ามไปทางนนทบุรี ที่ต้องรอโครงการ Flood Way ของกรมทางหลวงที่จะช่วยให้การระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วขึ้น


ปัจจุบัน ภาพรวมของระบบบริหารจัดการน้ำบริเวณถนนแจ้งวัฒนะมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่าย อาทิ โครงการฟลัดเวย์ การล้างท่อจากคลองเปรมประชากรถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำ โดยกรมทางหลวงร่วมกับ กทม. พร้อมกันนี้ มทบ.11 ยังสนับสนุนพื้นที่แก้มลิงและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ โดยมีการระบายน้ำจากหน้า มทบ.11 ผ่านท่อลอด เข้าสู่บ่อสูบน้ำและแก้มลิง ก่อนส่งต่อสู่ถนนหมายเลข 10 และไหลลงคลองบางตลาดและคลองเปรมประชากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการติดตามสถานการณ์และประเมินประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยการวางระบบบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนและเป็นขั้นตอน ทำให้กรุงเทพมหานครสามารถรับมือกับฝนตกหนักแบบเฉียบพลันได้ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าปรับปรุงจุดอ่อน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังได้ โดยการแจ้งพื้นที่น้ำท่วมขัง เข้ามาได้ที่ Traffy Fondue 

ในการนี้ พ.อ.ยุทธนา สุนทรมณี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 นายเจษฏา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายอัมรินทร์ จารุตามระ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกรุงเทพ กรมทางหลวง ร่วมกิจกรรม

สรุปข่าว

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมทางหลวง และมณฑลทหารบกที่ 11 เดินหน้าบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบนถนนแจ้งวัฒนะอย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากน้ำรอการระบายหลังฝนตกหนัก และยกระดับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมสื่อมวลชน ลงพื้นที่ติดตามการทำงาน แบบบูรณาการร่วมกัน ระหว่างกรุงเทพมหานคร มณฑลทหารบกที่ 11 และกรมทางหลวง ในการบริหารจัดการน้ำกรุงเทพมหานคร 5 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณโครงการท่อลอดระบายน้ำหน้ามณฑลทหารบกที่ 11, แก้มลิงภายใน มทบ.11, สถานีสูบน้ำคลองแยกคลองบางตลาด ใกล้ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, จุดวัดระดับน้ำหน้าศาลปกครองสูงสุด และแก้มลิงบึงสีกัน บริเวณแจ้งวัฒนะ ซอย 14 

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน ในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันอย่างเป็นระบบ อาทิ กรมทางหลวง ที่ล้างท่อและดำเนินโครงการ Flood Way จากคลองเปรมประชากรถึงแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงการก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำร่วมกับ กทม. ขณะที่ มณฑลทหารบกที่ 11 อนุญาตให้ใช้พื้นที่ภายใน มทบ.11 เป็นแก้มลิงรองรับน้ำ และส่งต่อไปยังคลองบางตลาด อีกทั้ง สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้ปรับปรุงสถานีสูบน้ำและก่อสร้างเขื่อนเสริม ทำให้ระยะเวลาในการระบายน้ำลดลงอย่างชัดเจน จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 5–6 ชั่วโมง หลังฝนหยุด เหลือเพียง 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ถนนแห้งเร็วขึ้น ลดผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้เส้นทาง


รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวอีกว่า แม้จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในหลายจุด แต่ยังมีพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ซึ่งยังคงต้องพึ่งระบบระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร และมีโครงการขยายขนาดท่อที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทำให้การระบายน้ำยังล่าช้า แต่เรามีการเตรียมแผนบรรเทาและป้องกันไว้แล้วระดับหนึ่ง


ด้านนายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกรุงเทพ เปิดเผยว่า โครงการระบบฟลัดเวย์ (Flood Way) ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทในการระบายน้ำจากถนนแจ้งวัฒนะสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มีแผนแล้วเสร็จภายในปี 2571 อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะสาธารณูปโภคใต้ดินที่ต้องเคลื่อนย้าย และการขยายท่อระบายน้ำบนถนนสายหลักที่อาจกระทบต่อการจราจร จึงต้องใช้แนวทางเสริมควบคู่กันไป เช่น การเพิ่มจุดสูบน้ำ ปรับปรุงคลองสายหลัก และใช้พื้นที่รองรับน้ำชั่วคราวหรือแก้มลิงเพิ่มเติม

รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวย้ำว่า ถนนแจ้งวัฒนะก่อนถึงคลองประปา ที่ผ่านมาช่วงฝนตกหนักช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. 68 คนในพื้นที่จะเห็นได้ว่าน้ำระบายได้ดีขึ้นจริง แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงฝั่งที่ข้ามไปทางนนทบุรี ที่ต้องรอโครงการ Flood Way ของกรมทางหลวงที่จะช่วยให้การระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วขึ้น


ปัจจุบัน ภาพรวมของระบบบริหารจัดการน้ำบริเวณถนนแจ้งวัฒนะมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากความร่วมมือของทุกฝ่าย อาทิ โครงการฟลัดเวย์ การล้างท่อจากคลองเปรมประชากรถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำ โดยกรมทางหลวงร่วมกับ กทม. พร้อมกันนี้ มทบ.11 ยังสนับสนุนพื้นที่แก้มลิงและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ โดยมีการระบายน้ำจากหน้า มทบ.11 ผ่านท่อลอด เข้าสู่บ่อสูบน้ำและแก้มลิง ก่อนส่งต่อสู่ถนนหมายเลข 10 และไหลลงคลองบางตลาดและคลองเปรมประชากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการติดตามสถานการณ์และประเมินประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยการวางระบบบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนและเป็นขั้นตอน ทำให้กรุงเทพมหานครสามารถรับมือกับฝนตกหนักแบบเฉียบพลันได้ดีขึ้น พร้อมเดินหน้าปรับปรุงจุดอ่อน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังได้ โดยการแจ้งพื้นที่น้ำท่วมขัง เข้ามาได้ที่ Traffy Fondue 

ในการนี้ พ.อ.ยุทธนา สุนทรมณี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 นายเจษฏา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายอัมรินทร์ จารุตามระ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ นายพรชัย ศิลารมย์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกรุงเทพ กรมทางหลวง ร่วมกิจกรรม

ที่มาข้อมูล : กรุงเทพมหานคร

ที่มารูปภาพ : กรุงเทพมหานคร