
กรมประมงเผยอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสวยงามของไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ปลากัด ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น สัตว์น้ำประจำชาติ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้กว่า 400 ล้านบาท หรือร้อยละ 40 ของการส่งออกสัตว์น้ำทั้งหมดของประเทศ
โดยในปี 2567 ประเทศไทยส่งออกสัตว์น้ำสวยงามรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 ของมูลค่าตลาดโลกที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ตามสถิติของธนาคารโลก ส่งผลให้ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและส่งออกสัตว์น้ำสวยงามอันดับต้นของโลก

สัตว์น้ำที่ส่งออกหลักได้แก่
• ปลากัด (40%)
• ปลาทอง (7.3%)
• ปลาหางนกยูงและปลาสอด (6.4%)
• กุ้งสวยงาม (5.8%)
• ปลาหมอสีและปลาออสการ์ (3.9%)
• ปลาสวยงามพื้นเมือง เช่น ปลาซิว ปลาก้างพระร่วง

ประเทศผู้นำเข้าหลัก ได้แก่
• สหรัฐอเมริกา (20%)
• สหภาพยุโรป (13.2%)
• จีน (10%)
เพื่อส่งเสริมการส่งออกอย่างยั่งยืน กรมประมงเดินหน้าพัฒนาแผนปฏิบัติการสัตว์น้ำสวยงาม พ.ศ. 2566–2570 ครอบคลุม 4 ยุทธศาสตร์ 13 แนวทาง ได้แก่
1. การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
2. การจัดการระบบมาตรฐานและฐานข้อมูล
3. การเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกร
4. การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
กรมประมงยังร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ขยายช่องทางขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิต โดยทดสอบความพร้อมในการจัดส่งผ่านระบบไปรษณีย์ ซึ่งสามารถรองรับสัตว์น้ำได้แล้วถึง 10 ชนิด รวมทั้ง ปลากัด ปลาสอด กุ้ง หอย พรรณไม้น้ำ สาหร่ายทะเล และเห็ดทะเล โดยมีแผนเปิดบริการขนส่งสัตว์น้ำไปต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ระบุว่า ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยจะช่วยให้เกษตรกรไทยส่งออกสัตว์น้ำได้โดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพิ่มรายได้ สร้างโอกาสการแข่งขันในระดับโลก และลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน กรมประมงยังเดินหน้าจัดงาน “ประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ภายในงานมีการประกวดปลาสวยงาม 7 ชนิด มากกว่า 3,000 ตู้ รวมถึงการแข่งขัน “The 19th TNPA All Thailand Koi Show 2025” โดยมีทีมกรรมการจากประเทศญี่ปุ่นตัดสิน พร้อมการแสดงสายพันธุ์ปลานำเข้าและส่งออก หวังดึงดูดนักเพาะเลี้ยง นักลงทุน และเยาวชนรุ่นใหม่ เข้าร่วมอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสวยงามของไทย
สรุปข่าว
กรมประมงเผยอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสวยงามของไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ปลากัด ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น สัตว์น้ำประจำชาติ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้กว่า 400 ล้านบาท หรือร้อยละ 40 ของการส่งออกสัตว์น้ำทั้งหมดของประเทศ
โดยในปี 2567 ประเทศไทยส่งออกสัตว์น้ำสวยงามรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 ของมูลค่าตลาดโลกที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ตามสถิติของธนาคารโลก ส่งผลให้ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและส่งออกสัตว์น้ำสวยงามอันดับต้นของโลก

สัตว์น้ำที่ส่งออกหลักได้แก่
• ปลากัด (40%)
• ปลาทอง (7.3%)
• ปลาหางนกยูงและปลาสอด (6.4%)
• กุ้งสวยงาม (5.8%)
• ปลาหมอสีและปลาออสการ์ (3.9%)
• ปลาสวยงามพื้นเมือง เช่น ปลาซิว ปลาก้างพระร่วง

ประเทศผู้นำเข้าหลัก ได้แก่
• สหรัฐอเมริกา (20%)
• สหภาพยุโรป (13.2%)
• จีน (10%)
เพื่อส่งเสริมการส่งออกอย่างยั่งยืน กรมประมงเดินหน้าพัฒนาแผนปฏิบัติการสัตว์น้ำสวยงาม พ.ศ. 2566–2570 ครอบคลุม 4 ยุทธศาสตร์ 13 แนวทาง ได้แก่
1. การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
2. การจัดการระบบมาตรฐานและฐานข้อมูล
3. การเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกร
4. การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
กรมประมงยังร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ขยายช่องทางขนส่งสัตว์น้ำมีชีวิต โดยทดสอบความพร้อมในการจัดส่งผ่านระบบไปรษณีย์ ซึ่งสามารถรองรับสัตว์น้ำได้แล้วถึง 10 ชนิด รวมทั้ง ปลากัด ปลาสอด กุ้ง หอย พรรณไม้น้ำ สาหร่ายทะเล และเห็ดทะเล โดยมีแผนเปิดบริการขนส่งสัตว์น้ำไปต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ระบุว่า ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยจะช่วยให้เกษตรกรไทยส่งออกสัตว์น้ำได้โดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพิ่มรายได้ สร้างโอกาสการแข่งขันในระดับโลก และลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน กรมประมงยังเดินหน้าจัดงาน “ประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ภายในงานมีการประกวดปลาสวยงาม 7 ชนิด มากกว่า 3,000 ตู้ รวมถึงการแข่งขัน “The 19th TNPA All Thailand Koi Show 2025” โดยมีทีมกรรมการจากประเทศญี่ปุ่นตัดสิน พร้อมการแสดงสายพันธุ์ปลานำเข้าและส่งออก หวังดึงดูดนักเพาะเลี้ยง นักลงทุน และเยาวชนรุ่นใหม่ เข้าร่วมอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสวยงามของไทย
- "เงาะโรงเรียนวังไทรทอง"เพชรบูรณ์ หวาน กรอบ ล่อน ยอดจองล้น | เรื่องดีดีทั่วไทย | 9-07-68
- รมว.เกษตร คนใหม่ ลุยนโยบาย 9 ด้าน มุ่งลดต้นทุน-แก้หนี้-รับมือภัยธรรมชาติ
- ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินช่วยเกษตรกรตัดอ้อยสด ลด PM 2.5
- “นฤมล” เผย ยอดจ้างแรงงานเกษตรกรทะลุ 7.5 หมื่นคน จ่อถึงเป้า 8.4 หมื่นคนทั่วประเทศ
- ลงดาบ 3 ล้ง โยงทุเรียนสวมสิทธิ์ที่ จ.อุตรดิตถ์
- ยึดที่ดินสระแก้ว ส่งมอบคืนเกษตรกร 1,000 ครอบครัว
- พ.ร.บ.สุราชุมชน มีผลบังคับใช้ 6 มิ.ย. 2568 ปลดล็อกสู่เวทีเศรษฐกิจไทย
