“ฝีดาษวานร” ปี  68 แนวโน้มลดลง แต่ยังเฝ้าระวังหลังพบผู้ป่วย 40 ราย

“ฝีดาษวานร” ปี  68 แนวโน้มลดลง แต่ยังเฝ้าระวังหลังพบผู้ป่วย 40 ราย

สธ.เผยแนวโน้ม “ฝีดาษวานร” ปี  68 ลดลง แต่ยังเฝ้าระวังหลังพบผู้ป่วย 40 ราย

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ โรคฝีดาษวานร (Monkeypox) ในประเทศไทยปี 2568 มีแนวโน้ม “ทรงตัว-ลดลง” เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ โดย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยสะสม  40  ราย ขณะที่ปี 2567 มี 176 ราย และปี  2566 มี  676  ราย ส่วน ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่  13  ราย นับจากพบโรคครั้งแรก

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังพบผู้ป่วยกระจาย “เป็นกลุ่มก้อน” ในกลุ่มเสี่ยง กระทรวงสาธารณสุขจึง สั่งเฝ้าระวังเข้ม ทั้งระบบคัดกรองผู้เดินทางเข้า‑ออกประเทศ และติดตามสายพันธุ์ไวรัสจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

สรุปข่าว

สธ.เผยแนวโน้มฝีดาษวานรในไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่อง พบผู้ป่วยสะสมปีนี้ 40 ราย ยังคงเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้เดินทางเข้าประเทศ ป้องกันสายพันธุ์จากต่างประเทศ ย้ำ 5 วิธีป้องกันโรค เช่น เลี่ยงสัมผัสผู้มีผื่น ใช้ถุงยาง รักษาสุขอนามัย ไม่ใช้ของร่วมกัน

สธ.เผยแนวโน้ม “ฝีดาษวานร” ปี  68 ลดลง แต่ยังเฝ้าระวังหลังพบผู้ป่วย 40 ราย

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ โรคฝีดาษวานร (Monkeypox) ในประเทศไทยปี 2568 มีแนวโน้ม “ทรงตัว-ลดลง” เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ โดย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยสะสม  40  ราย ขณะที่ปี 2567 มี 176 ราย และปี  2566 มี  676  ราย ส่วน ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่  13  ราย นับจากพบโรคครั้งแรก

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังพบผู้ป่วยกระจาย “เป็นกลุ่มก้อน” ในกลุ่มเสี่ยง กระทรวงสาธารณสุขจึง สั่งเฝ้าระวังเข้ม ทั้งระบบคัดกรองผู้เดินทางเข้า‑ออกประเทศ และติดตามสายพันธุ์ไวรัสจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

5 แนวทางป้องกันฝีดาษวานร (Monkeypox)

1.หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิด กับผู้มีผื่นหรือตุ่มที่ผิวหนัง
2.มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ระมัดระวังคู่สัมพันธ์ไม่คุ้นเคย และสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
3.รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
4.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือภาชนะอาหาร
5.เฝ้าระวังหลังเดินทางจากต่างประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกากลาง‑ตะวันออก และตะวันออกกลาง รวมถึงแยกของใช้‑สวมหน้ากากเมื่อต้องรอผลตรวจ

รองโฆษกรัฐบาลย้ำว่า การสวมถุงยางอนามัยไม่เพียงลดความเสี่ยงฝีดาษวานร แต่ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่นเอชไอวีและซิฟิลิส ซึ่งกำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน พร้อมขอประชาชนติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ และรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : AFP