วิทัย รัตนากร คือใคร? เปิดประวัติ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่

รากฐานครอบครัว–เส้นทางการศึกษา

วิทัย รัตนากร เติบโตในครอบครัวที่มีพื้นฐานเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย โดยเป็นบุตรของนายโสภณ รัตนากร อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และนางศิริลักษณ์ รัตนากร อดีตกรรมการผู้จัดการหญิงคนแรกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนเดินหน้าต่อระดับปริญญาโทถึง 3 ใบ ได้แก่

• เศรษฐศาสตร์การเมือง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• กฎหมายธุรกิจ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• การเงิน จาก Drexel University สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ยังผ่านหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงหลายสถาบัน เช่น

• วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66
• โครงการ TEPCoT รุ่นที่ 15
• สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 28
• นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง รุ่นที่ 7

เส้นทางอาชีพ จากภาคการเงิน สู่ภารกิจเพื่อสังคม

วิทัย เริ่มต้นเส้นทางในสายการเงินที่บริษัทหลักทรัพย์ภัทร และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จากนั้นเข้าสู่ภาคเอกชนในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) ของสายการบินนกแอร์ ระหว่างปี 2554–2557 ก่อนย้ายเข้าสู่ภาครัฐวิสาหกิจเต็มตัว

เขาเริ่มงานกับธนาคารออมสินในตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินในปี 2563 และได้รับการต่อวาระอีกครั้งในปี 2567 พร้อมกันนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น

• รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
• เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ โดยได้รับเลือกต่อวาระถึงปี 2570

แนวคิด “ธนาคารเพื่อสังคม” และผลงานเด่น

จุดเด่นของวิทัยคือการขับเคลื่อนแนวคิด “ธนาคารเพื่อสังคม” (Social Bank) โดยปรับบทบาทธนาคารออมสินให้เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน แต่เป็นเครื่องมือของรัฐในการขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนให้ประชาชนฐานราก

ภายใต้การบริหารของเขา ธนาคารออมสินได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อยที่ตอบโจทย์ชุมชน สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และเข้าร่วมในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมกับคืนรายได้เข้าคลังรัฐกว่า 96,000 ล้านบาทในช่วง 5 ปี

วิสัยทัศน์ในบทบาทผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

วิทัย รัตนากร ถูกมองว่าเป็นผู้บริหารที่มีความเข้าใจกลไกเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะความสามารถในการ “เชื่อมนโยบายการคลังกับนโยบายการเงิน” ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในยุคที่ระบบเศรษฐกิจต้องการความร่วมมือแบบบูรณาการมากขึ้น

วิทัย ให้ความสำคัญกับการบริหารหนี้ครัวเรือน การดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจภายใต้ภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่ยังผันผวน รวมถึงการออกแบบนโยบายการเงินที่ตอบโจทย์สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว