ลิณธิภรณ์แจงชัด ยังไม่มีคำสั่งยุบโรงเรียนเล็ก เน้นพัฒนาคุณภาพ

ลิณธิภรณ์แจงชัด ยังไม่มีคำสั่งยุบโรงเรียนเล็ก เน้นพัฒนาคุณภาพ

ลิณธิภรณ์ ยืนยันยังไม่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ชูแผนพัฒนา-ลดภาระครู

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตอบกระทู้ถามของนายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ถึงประเด็นการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก-ขนาดกลาง และการใช้ครูปฏิบัติงานธุรการว่า

ขณะนี้ประเทศไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กกว่า 29,000 แห่ง ในจำนวนนี้ราว 15,000 แห่งมีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน รวมจำนวนนักเรียนประมาณ 980,000 คน

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีช่วยฯ ยืนยันว่า ยังไม่มีคำสั่งยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กในขณะนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางอย่างรอบคอบ เนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนลดลงต่อเนื่อง และครอบครัวจำนวนมากย้ายถิ่นฐานเข้าเมือง

กระทรวงศึกษาธิการจึงเน้นการ “พัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กให้มีคุณภาพ” เพื่อให้เด็กได้เรียนใกล้บ้าน พร้อมทั้งดำเนินการแก้ปัญหาหลายด้าน ดังนี้

สรุปข่าว

รมช.ศึกษาธิการ “ลิณธิภรณ์” ชี้แจงต่อสภา ยังไม่มีคำสั่งยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ระบุ สพฐ. อยู่ระหว่างพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมวางแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก เพิ่มอัตราครู-ภารโรง ลดภาระงานธุรการครู และยกระดับคุณภาพการศึกษาในระยะ 3 ปี

ลิณธิภรณ์ ยืนยันยังไม่ยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ชูแผนพัฒนา-ลดภาระครู

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตอบกระทู้ถามของนายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ถึงประเด็นการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก-ขนาดกลาง และการใช้ครูปฏิบัติงานธุรการว่า

ขณะนี้ประเทศไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กกว่า 29,000 แห่ง ในจำนวนนี้ราว 15,000 แห่งมีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน รวมจำนวนนักเรียนประมาณ 980,000 คน

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีช่วยฯ ยืนยันว่า ยังไม่มีคำสั่งยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กในขณะนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางอย่างรอบคอบ เนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนลดลงต่อเนื่อง และครอบครัวจำนวนมากย้ายถิ่นฐานเข้าเมือง

กระทรวงศึกษาธิการจึงเน้นการ “พัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กให้มีคุณภาพ” เพื่อให้เด็กได้เรียนใกล้บ้าน พร้อมทั้งดำเนินการแก้ปัญหาหลายด้าน ดังนี้

มาตรการที่ดำเนินการแล้ว

  • ยกเลิกครูเวรกลางคืน ในพื้นที่ที่มีความไม่ปลอดภัย
  • แต่งตั้งผู้อำนวยการหรือรักษาการผอ.ให้ครบทุกโรงเรียน
  • เพิ่มอัตราครูและภารโรง โดยจัดสรรงบประมาณจ้างครูเพิ่ม 22,416 อัตรา และภารโรงให้ครบทุกแห่ง
  • ลดภาระงานธุรการครู เตรียมจ้างเจ้าหน้าที่ช่วยจัดซื้อจัดจ้างในอนาคต

แนวทางในกรณียุบรวมโรงเรียน (หากมี)

  • จัดสรรงบประมาณเพื่อยานพาหนะรับ-ส่งนักเรียนไปเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน
  • เพิ่มงบประมาณอาหารกลางวันให้ถึงระดับมัธยมต้น (ม.1-ม.3)
  • ยกระดับคุณภาพทางวิชาการ โดยเฉพาะผลสัมฤทธิ์และพัฒนาครู

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดแผนการจัดการโรงเรียนขนาดเล็กในช่วงปี 2568–2570 ร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษา โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พร้อมทั้งมีแผนจัดสรรงบประมาณแบบ “ท็อปอัพ”พื่อสนับสนุนการบริหารโรงเรียน

ประเด็นการใช้ครูทำงานธุรการ

รัฐมนตรีช่วยฯ ชี้แจงว่า อาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะปัจจุบันมีการสำรวจโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 40 คน ซึ่งหลายแห่งมีครูเกินอัตรา เมื่อครูเกษียณ จะใช้อัตรานั้นจ้างเจ้าหน้าที่ธุรการตามมาตรา 38ธ วรรคสอง ไม่ใช่นำครูเดิมมาเปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ

โดยหลักการสำคัญคือ “คืนครูสู่ห้องเรียน” เพื่อให้ครูได้ทำหน้าที่สอนเต็มที่ ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : ดร.หญิง ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์

บรรณาธิการออนไลน์