
ปะทะชายแดนเดือด สูญเสียหนักจากการยิง BM-21 ถล่มหลายจุด
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองทัพไทยเปิดเผยรายละเอียดเหตุปะทะรุนแรงกับกัมพูชาตลอดแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยระบุว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มต้นจากการส่งอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ล้ำแดนเข้าสำรวจในเขตหน้าปราสาทตาเมือนธม ก่อนเคลื่อนกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม แม้ฝ่ายไทยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยการเจรจา แต่กลับถูกเปิดฉากยิงตอบโต้
สรุปข่าว
ปะทะชายแดนเดือด สูญเสียหนักจากการยิง BM-21 ถล่มหลายจุด
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 กองทัพไทยเปิดเผยรายละเอียดเหตุปะทะรุนแรงกับกัมพูชาตลอดแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยระบุว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มต้นจากการส่งอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ล้ำแดนเข้าสำรวจในเขตหน้าปราสาทตาเมือนธม ก่อนเคลื่อนกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม แม้ฝ่ายไทยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยการเจรจา แต่กลับถูกเปิดฉากยิงตอบโต้
เวลา 08.20 น. กัมพูชาใช้อาวุธประจำหน่วยยิงใส่ฐานปฏิบัติการของไทยบริเวณปราสาทตาเมือน ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย จากนั้นสถานการณ์ยกระดับเมื่อเวลา 09.30 น. โดยมีการยิงจรวด BM-21 จากฝั่งเขาแหลมเข้าสู่พื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงการยิงเพิ่มเติมเข้าใส่พื้นที่พลเรือนและฐานทหารในอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี
ตลอดช่วงเวลา 10.00–12.21 น. มีการยิงโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเป้าหมายเชิงพลเรือน เช่น สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ร้านค้า และบ้านเรือน โดยมีพลเรือนเสียชีวิตสูงถึง 13 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 40 ราย ส่วนฝั่งทหารมีผู้เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บรวม 14 นาย
ไทยย้ำยึดหลักมนุษยธรรม สั่งปกป้องอธิปไตยเต็มที่
โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พลตรี วิทัย ลายถมยา ระบุว่า การที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือนอย่างโจ่งแจ้ง ถือเป็นการละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งห้ามมิให้มีการใช้กำลังโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร
กองทัพไทยได้ส่งคำเตือนอย่างชัดเจนต่อฝ่ายกัมพูชาให้ยุติการกระทำที่ละเมิดหลักนิติธรรมและจริยธรรมสากล พร้อมประกาศจุดยืนว่าไทยจะปกป้องอธิปไตยของตนอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่
ยอดเสียหายเบื้องต้น ณ เวลา 21.00 น.
จากการสรุปรายงานโดยกระทรวงสาธารณสุข ณ เวลา 21.00 น. ของวันเดียวกัน พบว่า
พลเรือน
เสียชีวิต 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส 7 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย
รวม 45 ราย
ทหาร
เสียชีวิต 1 นาย
บาดเจ็บสาหัส 6 นาย
บาดเจ็บปานกลาง 5 นาย
บาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย
รวม 15 นาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
บรรณาธิการออนไลน์
